บล.บัวหลวง:
Automotive – ผ่อนคันเร่ง
Recommend :
AH
คำแนะนำพื้นฐาน: ซื้อ
เป้าหมายพื้นฐาน: 41.50 บาท
SAT
คำแนะนำพื้นฐาน: ถือ
เป้าหมายพื้นฐาน: 18.90 บาท
ยอดผลิตรถยนต์ไทยลดลง YoY และ QoQ ในไตรมาส 4/66 ซึ่งหมายความว่ารายได้ของ SAT และ AH ลดลง อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรของ SAT มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น YoY ซึ่งส่งผลให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น กำไรไตรมาส 4/66 ของ AH อาจถูกกดดันจากยอดขายที่ลดลงและอัตรากำไรที่ลดลง
ยอดผลิตรถยนต์ลดลงอย่างมาก YoY ในไตรมาส 4/66
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรายงานยอดผลิตรถยนต์ในไตรมาส 4/66 จำนวน 455,692 คัน ลดลง 13% YoY (ฐานที่สูงในไตรมาส 4/65) และ 2% QoQ (ปัจจัยpฤดูกาล) ยอดผลิตรวม 1.84 ล้านคันในปี 2566 ลดลง 2.2% YoY ยอดขายรถยนต์ในประเทศในปี 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 775,000 คันลดลง 8.7% YoY
SAT-ธุรกิจชื้นส่วนรถแทรกเตอร์ยังซะลอตัว
เราคาดว่า SAT จะรายงานรายได้ที่ 2,150 ล้านบาทในไตรมาส 4/66 ลดลง 2% YoY และ 8% QoQ โดยยอดขายทั้งชิ้นส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนรถแทรกเตอร์ลดลง เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18% เพิ่มขึ้นจาก 16.8% ในโตรมาส 4/65 (การบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น) แต่ลดลงจาก 19% ในโตรมาส 3/66 (เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล-วันหยุดยาวเยอะ) เราคาดกำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 232 ล้านบาท (สูงกว่าประมาณการเบื้องต้นของเรา 9% เนื่องจากปัจจุบันเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น) ทรงตัว YoY แต่ลดลง 13% QoQ ดังนั้นเราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้น 2% มาอยู่ที่ 987 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY (เราประมาณการไว้ที่ 1,031 ล้านบาทในปี 2567 และ 1,095 ล้านบาทในปี 2568) ดังนั้นราคาเป้าหมายใหม่ของเราจึงอยู่ที่ 18.90 บาท อิงจาก PER ปี 2567 ที่ 7.8 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของ SAT อยู่ 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) เรายังคงคำแนะนำ “ถือ”
AH-อุปสงค์ชิ้นส่วนรถยนต์ชะลอตัว
เราคาดรายได้ไตรมาส 4/66 ของ AH อยู่ที่ 7,502 ล้านบาท ลดลง 4% YoY (อุปสงค์รถยนต์ลดลง) และ 2% QoQ (ปัจจัยฤดูกาล) เนื่องจากยอดขาย ชิ้นส่วนรถยนต์จากโรงงานในไทยและโปรตุเกสลดลง เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 11.4% ลดลงจาก 13% ในไตรมาส 4/65 และ 11.7% ในไตรมาส 3/66 เราคาดกำไรไตรมาส 4/66 จะอยู่ที่ 383 ล้านบาท (ต่ำกว่าประมาณการเบื้องต้นของเรา 18% เนื่องจากยอดขายลดลงและอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง) ลดลง 35% YoY (ฐานที่สูงในไตรมาส 4/65) และ 11% QoQ เราปรับลดประมาณการกำไรปี AH ปี 2566 จาก 1,794 ล้านบาทเหลือ 1,711 ล้านบาท และปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 ลง 5% เหลือ 1,849 ล้านบาท อิงจาก PER ที่ 8 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาวของ AH) ราคาเป้าหมายใหม่ของเราอยู่ที่ 41.50 บาท
แนวโน้มไตรมาส 1/67-เราซอบ AH มากที่สุดในกลุ่ม
เมื่อมองไปยังไตรมาส 1/67 เราคาดกำไรของ SAT จะลดลง YoY จากฐานที่สูงในไตรมาส 1/66 (เพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลและการฟื้นตัวของยอดขายรถแทรกเตอร์ QoQ) ยอดขายรถแทรกเตอร์จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีนี้ และธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ของบริษัทจะขยายตัวตามอุตสาหกรรม
กำไรหลักในไตรมาส 1/67 ของ AH มีแนวโน้มลดลง YoY (ฐานที่สูง) แต่เพิ่มขึ้น QoQ (ตามปัจจัยฤดูกาลเราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจะลดลง เนื่องจาก Hyundai Motor (ประเทศไทย) ได้ปิดตัวลงแล้ว และ AH ขายหุ้นใน Sakthi Auto Component Ltd (SACL) สำหรับปี 2567 เราคาดว่ากำไรจะเติบโตควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยคำสั่งซื้อใหม่และระยะเวลาการดำเนินงานเต็มปีสำหรับ AAPICO PUREM และ APPICO AVEE ดอกเบี้ยจ่ายน่าจะลดลงเนื่องจากเงินสดบางส่วนที่ AH ระดมได้จากการขายหุ้นใน SACL จะถูกนำมาใช้เพื่อชำระหนี้