เซ็นทรัล รีเทล ประกาศวิสัยทัศน์ 5 ปี “CRC OMNI-Intelligence” ดันธุรกิจสู่ The Next Era ตั้งเป้าปี 2567 รายได้โต 11%
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับกระแส Disruption ทั้งจากเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค การเข้ามาของ Generative AI และ Climate Change แต่ด้วยอีโคซิสเต็มของเซ็นทรัล รีเทล ที่สมบูรณ์แบบ มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ มีเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากการบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย โดยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI และได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2566 ในระดับ “AAA” ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดของไทย จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้เซ็นทรัล รีเทล ประสบผลสำเร็จและสามารถครองความเป็นผู้นำในทุกกลุ่มธุรกิจ
โดยในปี 2567 นี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้วางกลยุทธ์บนคอนเซ็ปต์ของ Leading Excellence and Advancing Sustainability คือ การบริหารธุรกิจทุกกลุ่มของเซ็นทรัล รีเทล ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ด้วยผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม (Excellence Performance) ในทุกมิติ รวมทั้งมีการวางกลยุทธ์เรื่องการสร้างความยั่งยืน ให้เข้มข้นไปอีกขั้น (Advance Sustainability)”
เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าสู่ The Next Era ด้วยวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence โดยการนำ AI เข้าไปในทุกกระบวนการของการทำธุรกิจ อาทิ การสร้าง Next-Gen Omnichannel ที่ผนวกแพลตฟอร์ม Offline และ Online เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค อีกทั้งยังขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ และมีการ Integrate AI ให้เข้ากับ HI (Human Intelligence) เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เหมือนมี Expertise at your fingertip รวมถึงการสร้าง Impact ที่มุ่งเน้นทั้งด้าน Profit และ Planet ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
โดย CRC OMNI-Intelligence ประกอบไปด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ (5R) ดังต่อไปนี้
1. Revolutionise Core Strength คือ การยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักใน Multi-Format, Multi-Category และ Multi-Market โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง รวมถึงการยกระดับเรื่อง Synergy และการทำ M&A เพื่อเพิ่ม Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจ
2. Reinforce Financial Resilience คือ การทำให้สถานภาพทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น และมีความยืดหยุ่นทางด้านการเงิน บนหลักการบริหาร 3C (Cash, Cost, Capex)
3. Reinvent Beyond Retail คือ การต่อยอดธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีก เช่น การเข้าไปเป็นส่วนสำคัญใน Community ต่างๆ ในแต่ละ Category เพื่อสร้าง Network และ Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล รวมถึงการขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้า Scale up อย่างต่อเนื่อง
4. Reimagine Human Capital คือ การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ด้วยการรวมIntelligence ของ AI และ HI เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และการเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มออมนิแชแนลแบบทวีคูณ
5. Rally Green Impact คือ การยกระดับการทำ Green Transition ด้วยการผนึกกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ มาร่วมมือกันแก้ปัญหา Climate Change เพื่อไม่ให้ไปสู่ Climate Crisis โดยการลดการใช้พลังงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโลกสีเขียว เพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง
จากวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence ที่เซ็นทรัล รีเทล วางไว้ ได้ถูกต่อยอดมาเป็นแผนงานปี 2567 ที่มีเป้าหมายผลประกอบการ คือ รายได้เติบโต 9-11% EBITDA เติบโต 15-17% และใช้งบลงทุน 22,000-24,000 ล้านบาท โดยมีแผนการดำเนินงานในปี 2567 ดังนี้
1. กลุ่มแฟชั่น : การพัฒนาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง พร้อมรีโนเวทและอัพเกรดห้างอีก 4 แห่ง ตลอดจนมีแผนเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และนำแบรนด์ในไทยขยายไปยังเวียดนาม
2. กลุ่มฟู้ด : เดินหน้าขยาย GO Wholesale อีก 7 สาขา เพื่อให้เป็นจุดหมายใหม่สำหรับทุกๆ คน เป็น The New Choice For All สำหรับลูกค้า ผู้ประกอบการ และพาร์ทเนอร์ทุกคน นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสาขา Tops รวม 10 สาขาในไทย สำหรับประเทศเวียดนาม มีแผนเปิด ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 3 สาขา และ go! (มินิ โก!) อีก 9 สาขา ซึ่งถือเป็น Winning Format ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
3. กลุ่มฮาร์ดไลน์ : เดินหน้าขยายสาขาไทวัสดุ 9 สาขา พร้อมรีโนเวทอีก 4 สาขา และได้ทรานส์ฟอร์มเหงียนคิมในเวียดนามให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
4. กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ : ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม มีแผนขยายอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าปิดปี 2567 ด้วยจำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ