ความเชื่อมั่น กับการรอคอย / 1,380 — 1,395

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งตัวในกรอบแคบ: แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนหากแต่ถูกจำกัด จากการแรงกดดันของการปรับน้ำหนัก MSCI และการรอติดตามสัญญาณบ่งชี้ทิศท่างดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทั้งนี้ ตลท.เผยว่าบริษัทที่ปรึกษาได้มีการนำเสนอต่อคณะกรรมการตลท. ถึงข้อสรุปผลการศึกษาเกี่ยวกับการเปรียบเทียบกกระเบียบและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับ short selling และ program trading โดยเบื้องต้นจะดำเนินการ 4 ด้าน ได้แก่ ควบคุมรายงานติดตามและบังคับใช้กฎเกณฑ์ และแบ่งความรับผิดชอบ เพื่อให้การป้องกัน naked short selling และการทำ program trading ที่ไม่เหมาะสมทำได้ดีขึ้น ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ขณะที่การปิดทำ new high ของ Dow Jones และ S&P500 ที่ยืนเหนือ 5 พันจุด เป็นการสะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่ยังอยู่ในโหมดเปิดรับสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index เช่นกัน อย่างไรก็ดี ด้วยปัจจัยที่เข้ามาจำกัด ส่งผลให้ทางฝ่ายมองหุ้นที่น่าสนใจ คือ กลุ่มที่มีปัจจัยเฉพาะตัว โดยเฉพาะที่กำลังจะมีการเผยงบและคาดว่าจะดี ขณะที่ทางขึ้นของ SET Index คาดจำกัดจากแรงกดดันจากหุ้นที่ถูกประกาศออกจาก MSCI ซึ่งจะปรับน้ำหนักในวันที่ 29ก.พ.โดย 1) BJC ออกจาก MSCI standard 2) BANPU และ OSPจะย้ายจากMSCI standard ส small cap และ 3) BEC และ SUPER ออกจาก MSCI small cap ขณะที่ MSCI small cap จะเพิ่ม GLOBAL, SKY และ TISCO เข้าไปนอกจากนี้ ในวันนี้ติดตาม 1) การเปิดเผยเงินเฟ้อเดือนม.ค.67 ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาด Headline และ Core CPI ขยายตัว 2.9% y-y และ 3.8%y-y จาก 3.4% y-y และ 3.9% y-y ในเดือนธ.ค.66 และ 2) การประชุมครม. หลังรมว.คลังเผยยังไม่ได้รับรายงาน Digital Wallet จากป.ป.ช. โดยเข้าใจว่าส่งไปที่ทำเนียบรัฐบาล และคาดว่าที่ประชุมครม.จะมีการพิจารณาข้อเสนอแนะ หลังจากนั้นครม.อาจมีมติส่งให้บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) เก็งงบ 4Q66: BGRIM, BH, GULF, ONEE, PTT 2) Spending+ท่องเที่ยว: AAV, BA, CRC, DOHOME, HMPRO, KLINIQ, MASTER, MOSHI, SPA, TACC 3) บาทอ่อน: KCE, SAPPE, TU และ 4) Dividend play: BRL, ORI, TISCO, TTW

ปัจจัยบวก

  • นายกฯ เผยว่าก.ต่างประเทศกำลังเดินหน้าเจรจาเกี่ยวกับการยกระดับวีซ่าของคนไทยที่อาศัยอยู่ในสหภาพยุโรป ให้สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศได้หลายประเทศ (วีซ่าเชงเก้น) ซึ่งจะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ และการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทย
  • ซินหัวรายงานว่าจีนเปิดเผยว่ากลุ่มผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมของจีนมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปี 66 ขณะที่รายได้ของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่มีรายได้จากธุรกิจหลักอย่างน้อย 20 ล้านหยวน/ปี เพิ่มขึ้น 1.1% y-y ในปี 66

ปัจจัยลบ

  • Berenberg Bank เผยว่าขณะนี้แทบไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของศก.เยอรมนี และข้อมูลที่มีการเปิดเผยมื้อสัปดาห์ที่แล้ว ล้วนบ่งชี้ว่าเยอรมนีกลายเป็นจุดอ่อนของยุโรปและถือเป็นการยืนยันว่าภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนียังคงอยู่ในภาวะถดถอย
  • พลเอกคาร์สเทน บรอยเออร์ จากกองทัพเยอรมนี ให้สัมภาษณ์กับ Welt Am Sonntag ว่ากองทัพเยอรมนีต้องยกระดับความพร้อมในการทำสงครามกับรัสเซีย ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายใน 5 ปีข้างหน้า พร้อมระบุว่ารัสเซีย มีทั้งศักยภาพด้านกำลังรบและความตั้งใจที่จะรุกคืบไปไกลกว่ายูเครน

PICKS OF THE DAY

AAV BUY
  • เป้าหมาย 2.42 / 2.50 แนวรับ 2.28
  • คาด 4Q66 จะกลับมามีกำไรปกติ: หากดูกำไรปกติ ไม่รวมค่าเงินใน 4Q66 จะกลับ มามีกำไรปกติ จากผู้โดยสาร +26% y-y เป็น 5.1 ล.คน และค่าตั๋วเฉลี่ย +23% คาดที่ 2,038 บาท/ตั๋ว อีกทั้งรายได้จากบริการเสริมเพิ่มขึ้น คาดกำไรปกติที่ 64 ลบ. จากปีก่อนขาดทุนปกติที่ 135 ลบ.
  • ฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2567: 1Q67 จะดีขึ้นทั้ง q-q และ y-y ตามฤดูกาลที่ดีสุดของปีและยังมีมาตรการฟรีวีซ่าโดยเฉพาะ นทท.จีนและอินเดีย และในปี 2567 มีแผนเปิดเส้นทางใหม่ไปวิศาขาปัตตนัมอินเดีย เป็นเมืองที่ 10, โอกินาว่า ญี่ปุ่น เป็นเมืองที่ 2, กาฐมาณฑุ เนปาล, อูลันบาตอร์ มองโกเลีย และจีนที่ศึกษาเส้นทางบินไปปักกิ่ง รวมถึงแผนเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางอื่น ทั้งปี AAV ตั้งเป้าผู้โดยสารที่ 20-21 ล.คน จากปี 66 ที่ 18.9 ล.คน สอดคล้องกับ นทท. ที่คาดจะเดินทางทั้งปีที่ 34.5 ล.คน จาก 28.2 ล.คน
KCE BUY
  • เป้าหมาย 47.00 / 49.00 แนวรับ 44.00
  • ปี 67 ได้รับประโยชน์จากค่าเงินต่อ: ปัจจุบันเงินบาท/ดอลลาร์ มูลค่าบาทลดลงมากว่า 4.3% นับตั้งแต่ต้นปีมาอยู่ที่ 35.87 บาท/ดอลลาร์ เป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งออกโดยเฉพาะ KCE ที่มีนโยบาย natural hedge ซึ่งทำให้การแปลงค่ากลับมาเป็นเงินบาทมีมูลค่าที่มากขึ้นในการขายแต่ละครั้งของ KCE ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ส่งผลดีทั้งด้านรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวได้ดีขึ้น
  • มอง 4Q66 ฟื้นตัวต่อ เก็งกำไรงบ: ในช่วง 3Q66 สถานการณ์ลดระดับ สต๊อกของคู่ค้าได้กลับมาดีขึ้น โดยกำลังการผลิตเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 77% มองว่า 4Q66 จะมีระดับการผลิตที่สูงขึ้น และยังมี Backlog ของ HDI ที่ค้างส่งในช่วง 3Q66 คาดจะทำให้ 4Q66 มีรายได้ฟื้นตัวดีขึ้น q-q และ KCE มีกำหนดจะประกาศงบในสัปดาห์นี้
- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน