บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
THAI STANLEY ELECTRIC (STANLY TB)
กำไร 3QFY24 ตามคาด เป็นไตรมาสที่ดีทั้งที่ low season
Highlights
- STANLY รายงานกำไรสุทธิ 443 ล้านบาทใน 3QFY24 (ต.ค.-ธ.ค. 2023) หักผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นกำไรปกติ 453 ล้านบาท -6.5% q-q, +15.5% y-y ดีกว่าคาด 2% กำไรที่ลดลง q-q เพราะไตรมาสนี้เป็น low season และไม่มีเงินปันผลรับจากบริษัทย่อยเหมือนในไตรมาสก่อน โดยรวมถือเป็นไตรมาสที่ดีทั้งที่เป็น low season
- รายได้ใน 3QFY24 -3.7% q-q, +0.1% y-y เนื่องจากเป็น low season วันทำงานน้อยกว่าไตรมาสก่อน แต่บริษัทเร่งผลิตสต็อกเพื่อเตรียมส่งมอบสำหรับไตรมาสถัดๆ ไป การใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นจาก 16.3% ใน 2QFY24 เป็น 19.2% ในไตรมาสนี้ และดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ยังมีปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และต้นทุนวัตถุดิบสูง
- รายได้และกำไรปกติงวด 9MFY24 เติบโตต่ำ โดยเพิ่มขึ้น 2.1% y-y และ 5.7% y-y ตามลำดับ กำไรที่เติบโตในอัตราเร่งกว่ารายได้ เนื่องจากในปีที่ผ่านมามีปัญหาต้นทุนวัตถุดิบสูงตามราคาน้ำมัน และปัญหา Chip shortage รวมถึงการขนส่งที่ไม่เป็นปกตินัก ประกอบกับการควบคุมรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
Outlook
- กำไรปกติงวด 9MFY24 (เม.ย.-ธ.ค. 2023) คิดเป็นเพียง 63.4% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่เราคาด 1,955 ล้านบาท (+12.2% y-y) ในขณะที่ภาคการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ไม่สดใสนัก ส.อ.ท. คาดการณ์ยอดผลิตรถปี 2024 เติบโตเพียง 3.2% y-y เป็น 1.9 ล้านคัน และคาดว่าการเติบโตในปีนี้จะมาจากยอดขายในประเทศ ในขณะที่ยอดส่งออกน่าจะชะลอลงจากปี 2023 จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว
- เราเห็นว่ายอดขายรถในประเทศเองก็มีความท้าทายอยู่มากจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูง ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถ แต่กระแสความนิยมในรถ EV ซึ่งได้อานิสงส์จากมาตรการภาครัฐจะยังพอเป็นแรงขับเคลื่อนยอดขายในประเทศได้ ซึ่งจะเป็นบวกกับตัวแทนจำหน่ายรถนำเข้าจากต่างประเทศมากกว่าจะเป็นบวกต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนในปีนี้
- แม้ว่าเรามีแนวโน้มปรับประมาณการลงให้สะท้อนผลกำไร 9MFY24 ที่ออกมาแต่ STANLY เป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันไม่สูงนัก ปลอดหนี้ มีเงินสดในมือถึง 8 พันล้านบาท (105 บาท/หุ้น) จึงคงคำแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมาย 240 บาท อิง 2024E P/E 9.4 เท่า เท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี