บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
ASSETWISE (ASW TB)
คาดกำไร 4Q23 เกณฑ์ดี ปี 2024 เห็นการเติบโต
- บริษัทเผยแผนปี 2024 เชิงระมัดระวัง ตั้งเป้า Presales +8% y-y ที่ 1.8 หมื่นลบ. ผ่านการเปิดตัวใหม่ 2.6 หมื่นลบ. (-14% y-y) ครอบคลุมทำเลกรุงเทพฯ, EEC และภูเก็ต
- คาดกำไรสุทธิ 4Q23 +158% q-q, +1% y-y จากการเริ่มโอน 3 คอนโดใหม่
- ปรับลดประมาณการปี 2024 และราคาเหมาะสมเป็น 9.50 บาท คงคำแนะนำซื้อ
แผนธุรกิจปี 2024 เติบโตภายใต้ความระมัดระวัง ตั้งเป้า Presales +8% y-y
ASW ประกาศแผนธุรกิจปี 2024 ภายใต้ความระมัดระวัง ตั้งเป้า Presales ขยายตัว 8% y-y ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท และยอดโอนที่ 8.7 พันล้านบาท ผ่านแผนเปิดตัวใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 2.6 หมื่นล้านบาท (-14% y-y) เนื่องจากบางส่วนถูกเลื่อนเปิดเร็วขึ้นใน 4Q23 ประกอบด้วย 1) คอนโด ASW 6 แห่ง มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท หลักๆ ยังเป็นแบรนด์ KAVE ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท จำนวน 3 แห่งใกล้มหาวิทยาลัย และเริ่มรุกใกล้โรงเรียนอย่างบดินทร์เดชา อีกทั้ง ขยายในหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างทำเลจอมเทียน-พัทยาในแบรนด์ใหม่ Aquarous 2) คอนโด TITLE 3 แห่งในภูเก็ต มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมทำเลศักยภาพบางเทา ในยาง และราไวย์ 3) แนวราบ 3 แห่ง มูลค่า 4.1 พันล้านบาท ไฮไลท์เป็น CHANN The Riverside บ้านเดี่ยว Boutique ติดแม่น้ำท่าจีน
คาดกำไร 4Q23 เติบโต q-q และ y-y หนุนจากคอนโดสร้างเสร็จใหม่
เราประเมินกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 435 ล้านบาท (+158% q-q, +1% y-y) หากไม่รวม Share premium จากการเซ็นสัญญา JV ใหม่ราว 60 ล้านบาท กำไรปกติคาดที่ 375 ล้านบาท (+328% q-q, +36% y-y) ผลักดันจากคอนโดสร้างเสร็จใหม่ 3 แห่ง ประกอบด้วย Kave Colony และโครงการ JV อย่าง Atmoz Oasis Onnut และ Atmoz Flow Minburi หนุนยอดโอนคาด +29% q-q, +12% y-y ที่ 2 พันล้านบาท และส่วนแบ่ง JV พลิกเป็นกำไร 65 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอสังหาฯ คาดฟื้นตัวเป็น 41% จาก 37.6% ใน 3Q23 จากการรับรู้โครงการใหม่ซึ่งมาร์จิ้นดี ทำให้จบปี 2023 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1 พันล้านบาท (-7% y-y) และกำไรปกติ 793 ล้านบาท (+15% y-y)
ปรับประมาณการปี 2024 ลง 4% แต่ยังเติบโตได้ +7% y-y
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 จากเดิม 4% เป็น 1.1 พันล้านบาท (+7% y-y) สะท้อนการเลื่อนรับรู้โครงการ TITLE โดย The Title Legendary Bangtao เริ่มโอน 1Q25 จากเดิม 4Q24 ทั้งนี้ สมมติฐานยอดโอนของเรา 8.1 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าบริษัท 7% ด้วยมุมมองระมัดระวังต่อพอร์ตหลักของบริษัทราว 40-50% ที่เป็นระดับต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อเปราะบาง และ Rejection rate จากธนาคารสูง
ปรับราคาเหมาะสมเป็น 9.50 บาท ยังแนะนำซื้อ คาดให้ปันผล Yield 6.3%
เราปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 9.50 บาท (อิง PER เดิม 8x) ยังแนะนำซื้อ ราคาหุ้นมี Upside มากกว่า 10% บวกกับแนวโน้มกำไร 4Q23 และปี 2024 เติบโต โดยการขย่ายพอร์ตในภูเก็ตกับ TITLE ซึ่งได้อานิสงส์เชิงบวกจากการท่องเที่ยวเป็นส่วนช่วยสนับสนุนคาดปันผลังวดปี 2023 ที่ 0.52 บาท/หุ้น Yield 6.3% (จ่ายปีละครั้ง)
Investment thesis
นอกเหนือจากการพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึง EEC บริษัทยังเดินหน้ากระจายพอร์ต ทั้งทำเล และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยสิ้นปี 2022 บริษัทเริ่มจับมือกับผู้พัฒนาอสังหาฯ ท้องถิ่นในภูเก็ตเพื่อพัฒนา Luxury Pool Vila ในภูเก็ต ขณะที่ล่าสุด 3Q23 ประกาศเข้าลงทุนในหุ้น TITLE 67.61% ซึ่งพัฒนาคอนโด Leisure ในภูเก็ตและมีจุดแข็งด้านที่ดินในมือที่พัฒนาโครงการได้ถึง 1.4 หมื่นล้านบาท พร้อมมีประสบการณ์และเครือข่าย Agent ที่แข็งแกร่ง เพื่อต่อยอดการขยายการลงทุนได้เร็วขึ้น และขับเคลื่อนต่อศักยภาพการเติบโตตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป
Company profile
ASW ก่อตั้งในปี 2005 ประกอบธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ทั้งแนวสูง ได้แก่ คอนโด Low Rise และ High Rise รวมถึงแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ นอกจากนี้ ยังประกอบธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ได้แก่ อสังหารเพื่อให้เช่า, รับฝากขายฝากเช่าอสังหาฯ และตัวกลางในการรับชำระเงินจากลูกค้าต่างประเทศ โดยจุดเด่นของ ASW คือมุ่งเน้นการออกแบบพื้นที่โครงการที่ตอบสนองความ ต้องการลูกค้า รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ฟังก์ชั่นการใช้งานคุ้มค่า
Catalysts
ปัจจัยหนุนต่อการเติบโตคือ 1) ความสำเร็จของการเปิดตัวโครงการใหม่และความคืบหน้าการขายของสินค้าเหลือขาย 2) แผนขยายธุรกิจ ทั้งการเข้าซื้อหุ้น TITLE เพื่อเข้ารุกตลาดอสังหายภูเก็ต และการเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย ซึ่งกระจายในทำเลที่มีศักยภาพทั้งกรุงเทพฯ และจังหวัดใหม่ รวมถึงการร่วมทุนกับพันธมิตรในโครงการ JV ใหม่ ซึ่งอาจทำให้มีการบันทึกกำไรพิเศษ Share premium
Risks to our call
ความเสี่ยงต่อประมาณการ 1) การรับรู้ Backlog ล่าช้ากว่าแผน และการเลื่อนโอนคอนโดใหม่ 2) การเปิดโครงการใหม่ต่ำกว่าแผน 3) Take-up rate โครงการใหม่ต่ำกว่าคาด 4) เศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว 5) การ ก่อสร้างล่าช้าและการแข่งขันรุนแรง 6) อัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารและยอดยกเลิกจากลูกค้าสูงขึ้น
Catalysts
ปัจจัยสนับสนุนการเติบโต คือ ความสำเร็จของการเปิดตัวโครงการใหม่, การขยายการลงทุนไปในธุรกิจใหม่ อาทิ คลังสินค้า และโรงแรม รวมถึงโอกาสในการเซ็นสัญญา JV พัฒนาโครงการคอนโดใหม่
Risks to our call
ความเสี่ยง 1) อัตราการขายต่ำกว่าคาด 2) เศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว 3) อัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารและยอดยกเลิกจากลูกค้าสูงขึ้น 4) การก่อสร้างล่าช้าและการขาดแคลนแรงงาน และ 5) การแข่งขั้นรุนแรง