บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
NSL FOODS (NSL TB)
NSL กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง
- คาดกำไร 4Q23 เร่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ฟื้นตัวดีกว่าที่เคยคาด
- ธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งสามารถหักล้างผลขาดทุนของบริษัทลูกได้หมด
- แนะนำ ซื้อ โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 26 บาท
คาด 4Q23 ทำนิวไฮได้ทั้งรายได้และกำไร
เราคาดกำไรสุทธิ 4Q23 จะเร่งขึ้นเป็น 85 ลบ. (+16% q-q% +9% y-y) ทำจุดสูงสุดใหม่ ดูดีกว่าที่เคยคาด มาจากทั้งรายได้ที่ขายผ่าน 7-Eleven ที่ยังแข็งแกร่ง, อัตรากำไรขั้นต้นกลับมาฟื้นตัว และผลของขาดทุนของบริษัทร่วมที่น้อยลง แนวโน้มรายได้ 4Q23 น่าจะเติบโตทำนิวไฮได้อย่างน่าประทับใจราว 6% q-q และ 20% y-y หนุนโดย 1) รายได้จากธุรกิจเดิมที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง 2) สินค้าใหม่ได้รับการตอบรับที่ดี อาทิ ขนมหวานช็อคโกแลตนามะและมาการอง เป็นต้น และ 3) รับรู้รายได้ BAW เต็มไตรมาส คาดที่ 45 ลบ. (3% ของรายได้รวม 4Q23) ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะฟื้นตัวมาอยู่ที่ 18.3% จาก 17.7% ใน 3Q23 หลังจากปรับปรุงโรงงาน เพื่อให้ได้มาตรฐาน Halal แล้วเสร็จ
คาดผลขาดทุนบริษัทลูกไม่มีนัยสำคัญ
เบื้องต้นเราคาดส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม เป็น 1 จะลดลงมาอยู่ที่ราว -2.5 ลบ. จาก – 3.7 ลบ. ใน 3Q23 ภายหลังบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทร่วม (เป็น 1) ตั้งแต่ 3Q23 และคาดจะถึงระดับคุ้มทุนได้ในปี 2024 อย่างไรก็ตาม เราคาด 2 บริษัทย่อย NSL Intertrade และ NSL BAW น่าจะมีผลขาดทุนเล็กน้อย อาจไม่มีนัยสำคัญต่อผลประกอบการโดยรวม ล่าสุด NSL Intertrade ได้เริ่มส่งออกสินค้า Retort ประเภทขนมหวานแบบถ้วยลือตแรกในเดือน ธ.ค. ยังอยู่ระหว่างติดตามผลตอบรับ ขณะที่เรายังไม่เห็นพัฒนาการที่ชัดเจนจาก NSL BAW แต่เชื้อว่าผู้บริหารยังสามารถบริหารจัดการผลการดำเนินงานให้ต่อนไปในทางคุ้มทุนหรือขาดทุนเพียงเล็กน้อยได้ กล่าวโดยสรุป เราคาดว่าธุรกิจหลักเดิมยังเติบโตได้ดี และสามารถหักล้างผลขาดทุนของบริษัทร่วมและบริษัทย่อยได้ทั้งหมด
ปรับเพิ่มกำไร สะท้อนรายได้ที่โตแข็งแกร่ง
ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2024 เติบโตราว 19-20% y-y มีปัจจัยหนุน 1) ธุรกิจเบเกอรียังเติบโตต่อเนื่อง ตามการขยายสาขาของ 7-Eleven และการออกรสชาติใหม่ๆ 2) ตังเป้ารายได้ส่งออกไม่น้อยกว่า 100 ลบ. (คิดเป็น 1.8% ของเป้ารายได้ปี 2024) และ 3) การเติบโตของรายได้สินค้าแบรนด์ตนเอง และรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย จากรายได้ที่เติบโตดีกว่าคาด เราปรับเพิ่มสมมติฐานรายได้ปี 2024-2025 ขึ้น 7-8% เป็นการเติบโต 14% y-y และ 9% y-y ตามลำดับ ซึ่งยังเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าเป้าหมายของผู้บริหาร ดังนั้นจึงปรับเพิ่มกำไรสุทธิปี 2024-25 ขึ้น 7.5% และ 4.6% เป็น 383 ลบ. (+21% y-y) และ 425 ลบ. (+11% y-y) ตามลำดับ
คงคำแนะนำซื้อ ปรับเป้าขึ้นเป็น 26 บาท
ยังคงคำแนะนำ ซื้อ และกลับมาชอบ NSL มากขึ้น โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 26 บาท จาก 24 บาท (อิง PE เดิมที่ 20x) เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่มีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากบริหารจัดการผลขาดทุนของบริษัทได้ดี ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันเทรดอยู่ที่ PE 2024 เพียง 14.6x และคาดเงินปันผลในงวด 2H23 หุ้นละ 0.54 บาท คิดเป็น Dividend yield ครึ่งปีที่ 3%