เงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงกว่าคาด แต่เป็นบวกกับกลุ่มส่งออก

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 1.35% หลังจากสหรัฐฯรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวมากกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า FED จะไม่ปรับลดดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.9% ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะกระทบต่ออุปทานน้ำมัน

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคประจำเดือน ม.ค. ขยายตัว 3.1%YoY, 0.3%MoM พร้อมกับเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 3.9%YoY, 0.4%MoM สูงกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.9%YoY, 3.7%YoY แม้พลังงานจะปรับลดลง 4.6%YoY, 0.9%MoM พร้อมกับราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับลง 3.3%MoM, 6.4%YoY แต่ราคาที่เกี่ยวข้องกับอสังหาฯ (Shelter) ขยายตัว 0.6%MOM, 6%YoY รวมไปถึงราคาค่าขนส่งขยายตัว 1%MOM , 9.5%YoY ทั้งนี้ภายหลังจากรายงานพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2, 10 ปีปรับขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ พร้อมกับ Dollar Index ที่แข็งค่า และราคาท่องคำกับตลาดหุ้นปรับฐาน ด้านค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าทดสอบ 36.07 บาท / ดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน มองเป็นปัจจัยสร้างแรงกดดันต่อกระแสเงินทุนต่างชาติ แต่จะเป็นบวกกับกลุ่มส่งออก (TU) ความเห็นจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 91.5% ที่การประชุม FED เดือน มี.ค. จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมถูกปรับขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 21% อย่างไรก็ตาม ยังให้น้ำหนักที่จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค. 62% ด้วยเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดการณ์เช่นนี้จะเป็นปัจจัยกดดันการเคลื่อนไหวสินทรัพย์ทั่วโลกจนกว่าจะเห็นปัจจัยบวกใหม่ๆ

ปัจจัยในประเทศวานนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย 1 ม.ค. – 11 ก.พ. ที่ 4.38 ล้านคน (+48%YoY) ขณะที่ 11 วันแรกของเดือน ก.พ. อยู่ที่ 1.35 ล้านคน เท่ากับว่าโดยเฉลี่ยแล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยวันละ 1.04 แสนคน แต่หากพิจารณาช่วงเดือน ก.พ. 11 วันแรกจะพบว่า สูงถึง 1.22 แสนรายต่อวัน ดังนั้นเป้าหมายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดไว้ที่ 35 ล้านคนในปี 24 มีความเป็นไปได้ที่จะถึงเป้าหมายหรืออาจสูงกว่าเล็กน้อย หากเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากนี้ จึงยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) รวมถึงค้าปลีก (BJC CRC CPALL)

วันนี้ประเมิน SET ปรับลงในกรอบ 1380 – 1390 แต่เชื่อว่าจะไม่ปรับฐานแรงด้วยการที่ตลาดหุ้นไทย ช่วงที่ผ่านมาค่อนข้าง Underperform ตลาดหุ้นโลกและเช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei ก็แกว่งลบเพียง 0.67% เชิงกลยุทธ์การลงทุนการปรับฐานมองเป็นโอกาสสะสมมากกว่าเน้นที่กลุ่มได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว อาทิ สนามบิน (AOT) โรงแรม (CENTEL ERW MINT) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) รวมไปถึงกลุ่มการเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ศูนย์การค้า (CPN) ส่งออก (ITC TU) ธนาคาร (BBL KBANK)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.70 บาท)

คาดผลประกอบการงวด 4Q23 TU จะมีกำไรสุทธิ 1,481 ล้านบาท (+20%YoY, +23%QoQ) ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงธุรกิจอาหารแช่แข็งที่ได้รับผลดีจากต้นทุนที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น แม้ว่าในส่วนของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปอย่างทูน่ากระป๋องจะมีรายได้ลดลงเพราะราคาขายลดลงตามต้นทุนปลาทูน่า

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 84.50 บาท)

ปี 24 เราคาดว่าผลประกอบการยังเติบโตได้ดี หลังมีการเปิดโครงการใหม่ อีก 2 แห่งที่นครสวรรค์และนครปฐม และรับรู้รายได้จากศูนย์เวสท์วิลล์ที่เปิดในเดือน พ.ย. 23 เต็มปี ทำให้เบื้องต้นเราคาดกำไรที่ 15,161 ล้านบาท (+5%YoY)

- Advertisement -