บล.ฟิลลิป:

ซิงเกอร์ประเทศไทย – SINGER

ปี 66 จะฟื้นตัวจากขาดทุนหนักในปี 67

Key Point

ตั้งเป้ารายได้จากการขายปี 67 เพิ่มขึ้น 2 เท่า จากการเพิ่มจนท.ตัวแทนขาย และการใช้ช่องทางใหม่ ๆ ในการขายสินค้าไม่น่ามีการตั้งสำรอง ก้อนใหญ่เหมือนในปี 66 อีก และการที่การตั้งสำรองลดลง รวมไปถึงการที่คาดว่ายอดขายจะเติบโตขึ้น ซึ่งจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้คาดว่าผลประกอบการปี 67 จะพลิกกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง หลังจากขาดทุนหนักในปี 66 อย่างไรก็ตามจะยังไม่สามารถจ่ายปันผลได้ทั้งปี 66 และ 67 คงราคาพื้นฐาน 12.20 บาท แนะนำ “ซื้อ”

ตั้งเป้ารายได้จากการขายปี 67 เพิ่มขึ้น 2 เท่า

ในปี 66 SINGER มีรายได้จากการขายเพียง 757 ลบ. ลดลงมากจากปี 65 ที่มีรายได้จากการขาย 2.7 พันลบ. ซึ่งนอกเหนือจากกำลังซื้อที่ลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยังเป็นเพราะทาง SINGER ได้มีการปรับความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งการปรับความเข้มงวดการพิจารณาสินเชื่อนี้จะทำให้รายได้จากการขายลดลงแล้ว ยังทำให้รายได้ดอกเบี้ยลดลงไปด้วย โดยลดลงจาก 2.3 พันลบ.ใน ปี 65 เหลือ 2.1 พันลบ. ส่วนปี 67 ทาง SINGER ตั้งเป้ารายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้นจากปี 66 2 เท่า โดยนอกจากการขาย Direct sale ที่จะมีการเพิ่มจนท.ตัวแทนเพิ่มขึ้นแล้ว SINGER จะใช้ช่องทางต่างๆ ในการเพิ่มยอดขายไม่ว่าจะเป็น Telesale ช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ในปีนี้ SINGER จะใช้ช่องทางใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อน คือการขายผ่านสาขาของ JMART และ JMT ด้วย

จะไม่มีการตั้งสำรองก้อนใหญ่อีกในปี 67

ในปี 66 ที่ SINGER มีผลขาดทุนสูงถึง 3.2 พันลบ. ส่วนใหญ่เป็นเพราะการตั้งสำรอง เนื่องจากการตัดหนี้สูญกลุ่มลูกหนี้ด้อยคุณภาพของสัญญาเช่าซื้อที่บริษัทได้ติดตามทวงถาม และพิจารณาแล้วว่าลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งสำรองลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากมาตรการช่วยเหลือ COVID-19 หมดไป โดยมีการตั้งสำรองสูงถึง 2.9 พันลบ. ใน 2Q66 และมีการตั้งสำรองทั้งปี 4.1 พันลบ. อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารมองว่าปี 67 ไม่น่าจะมีการตั้งสำรองก้อนใหญ่เหมือนในปี 66 อีก โดยตั้งแต่ 3Q66 เป็นต้นมา SINGER ก็มีเพียงการตั้งสำรองปกติเท่านั้น

คาดปี 67 พลิกกลับมาทำกำไรได้

จากยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีทั้งกับรายได้ในการขาย รวมไปถึงรายได้ดอกเบี้ย และการตั้งสำรองที่คาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้คาดว่าปี 67 ผลประกอบการของ SINGER จะพลิกกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง โดยทางฝ่ายคาดไว้ที่ 569 ลบ. อย่างไรก็ตาม จากส่วนของผู้ถือหุ้นที่ยังติดลบ ทำให้คาดว่า SINGER จะยังไม่สามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ เหมือนกับปี 66 ที่ทาง SINGER ได้มีการงดจ่ายปันผลไป คงราคาพื้นฐานไว้ที่ 12.20 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
  2. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นหลัก
  3. ความเสี่ยงด้านคุณภาพของลูกหนี้
- Advertisement -