บล.ฟิลลิป:

OR: กำไร 4Q66 ลดลงจากสต๊อกน้ำมัน

ซื้อ TP’67: 25.00

กำไรออกมา -96%q-q โดยหลักเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ทำให้กำไรขั้นต้นต่อลิตรปรับลดลงกว่า 66% เหลือ 0.75 บาท/ลิตร ประกอบกับคชจ.ที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี ทำให้โดยรวมกำไรลดลงในไตรมาสนี้ ระยะสั้นคาดราคาหุ้นจะกูดกดดันจากกำไรที่ปรับลงแรง ทั้งนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มการฟื้นตัวใน 1Q67 เนื่องจากคาดว่าผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันจะลดลง

งบรวม

4Q66

3Q664Q65% y-y%q-q25662565

% y-y

กำไร

193

5,170-744N.A.-96.311,09410,370+7.0

EPS

0.020.43-0.06N.A.-96.30.920.86

+7.0

หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท

  • กำไรถูกกดดันจากสต๊อกน้ำมัน: กำไรออกมา 193 ลบ. -96% q-q ต่ำกว่าทางฝ่ายและตลาดคาด เนื่องจากถูกผลกระทบจากขาดทุนสต๊อกน้ำมันประมาณ 2,500 ลบ. เมื่อเทียบจากที่กำไรใน 3Q66 ที่ 4,000 ลบ. ส่งผลให้กำไรขั้นต้นต่อลิตรลดลงเหลือ 0.75 บาท/ลิตร (-60q-q) นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากธุรกิจ Global ที่ผลการดำเนินงานปรับตัวลง เนื่องจากยอดขายลดลง -11%q-q โดยหลักในฟิลิปปินส์ที่มีการแข่งขันสูง ทั้งนี้แม้ว่าธุรกิจ lifestyle ยอดขาย Cafe Amazon จะดีขึ้น แต่มี คชจ. ที่เพิ่มขึ้นปกติในช่วงปลายปี ประกอบกับผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันข้างต้น ทำให้โดยรวมกำไร 4Q66 ปรับตัวลงกว่า -96% q-q แต่ยัง +y-y เนื่องจาก 4Q66 มีผลขาดทุนกว่า 744 ลบ. จากการที่ต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศที่มีต้นทุนที่สูงกว่าปกติ
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” : ระยะสั้นคาดราคาหุ้นจะโดนกดดันจากงบ 4Q66 ที่ลดลงแรง อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายยังคงมุมมองกำไร 1Q67 จะฟื้นตัวกลับมาจากผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันจะน้อยลง และคชจ.เกี่ยวกับการขายที่ลดลง ทำให้มองราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงเป็นจังหวะให้เข้าสะสม จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -