รอบด้านตลาดหุ้น: Accumulated Buy
สรุปภาพตลาดวานนี้
ดัชนียังเล่นต๊อกแต๊ก แกว่งตัวปิดบวกเล็กๆ โดยหุ้นใหญ่ DELTA OR BDMS PTT PTTEP MINT AWC CRC GULF วัดพลังกับหุ้นด้านลบ AOT (งบต่ำกว่าตลาดคาด) SCB CPAXT ADVANC TTB SCC HMPRO KBANK HANA RAM (สังเกตว่ามีการวัดพลังบวก-ลบในกลุ่มเดียวกันเองด้วย เช่น คอมเมิร์ซ, รพ.) แต่กลุ่มที่บวกแรง ได้แก่ ตระกูลเจ นำโดย JMT JMART และรับเหมาย นำโดย STEC CK (หลังจากงานก่อสร้างใหม่มีข่าวชัดเจนขึ้น) และกลุ่มกระแสข่าวบวกอย่าง SKY-ANI ที่จะได้อานิสงค์จากข่าวโอกาส AOTGA ได้เข้าประมูลงานสุวรรณภูมิเต็มตัว ส่วนหุ้น Alpha อื่นๆ เช่น CHASE PRIME CREDIT MVP
แนวโน้มตลาดวันนี้
เรายังคงมุมมองมีโอกาสที่จะเห็นผลตอบแทนตลาดหุ้นไทย เดือน กพ. เป็นบวกเมื่อเทียบกับเดือน มค. ตามค่าสถิติ ที่เราศึกษาพบว่ามีโอกาสถึง 70-80% ที่ตลาดหุ้นไทยจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกในเดือน กพ. จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี”
ดังนั้นการย่อสลับระหว่างทาง “แบบปกติ” เราจึงยังไม่ได้กังวล ซึ่งวันนี้เราคาดหุ้นไทยจะไม่ได้ลงลึกลงแรงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับลงเพราะข้ออ้าง ในการขายทำกำไรจากประเด็นเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐเดือน ม.ค. +3.1% y-y สูงกว่าคาดที่ 2.9% (แต่ลดลงจาก 3.4% ส่วนเงินเฟ้อ Core CPI +3.9% สูงกว่าที่คาด 3.7%) และตลาดเปลี่ยนมุมมองเฟดจะคงดอกเบี้ยในเดือน พค. (จากเดิมมองลดดอกเบี้ย) โดยการปรับลดดอกเบี้ยตลาดคาดจะไปลดช่วงเดือน มิย. แทน (MS คาดเช่นกัน)
ด้วยเราเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ไม่ได้บวกตามตลาดหุ้นโลก ตอนที่ขานรับข่าวดอกเบี้ยเฟดจะลงเร็ว แต่…
เราให้น้ำหนักกับการรายงานงบการเงิน บจ.ที่เห็นสัญญาณดีขึ้นกว่าคาด, ความถูกของหุ้นไทย (Margin of safety), เกณฑ์ กลต. ที่จะเพิ่มการคุม Short sell และการใช้โปรแกรมเทรด สร้างความผันผวนรุนแรงให้กับราคาหุ้น, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เช่น พรุ่งนี้ประชุมบอร์ดดิจิตอลวอลเล็ต, เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 66 ที่เหลืออยู่ 9.2 แสนล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจตลอด 3 เดือนนี้ ก่อนงบปี 67 ประกาศใช้ พร้อมกับเสนอแผนขาดดุลเพิ่ม (ก่อหนี้ใหม่) 5.6 แสนล้านบาท รวมเป็นกว่า 7 แสนล้านบาท ในงบปี 67 เป็นต้น
กลยุทธ์การลงทุน
ส่วนธีมลงทุน แนะเลือกหุ้นตาม Earnings play / หุ้นปันผล / ธีมการลงทุนจากปัจจัยหนุนการปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไร เช่น เอลนีโญ ทำอุณหภูมิประเทศไทยเฉลี่ยสูงขึ้น มีผลต่ออุตสาหกรรมเชื่อมโยง เช่น ความต้องการใช้ไฟฟ้าครัวเรือนเพิ่มขึ้น, ยอดขายสินค้าฤดูร้อนมีแนวโน้มจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยฤดูกาล เป็นต้น
หุ้นแนะนำวันนี้
STEC รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบปี 66 ที่เหลือ ของแต่ละกระทรวง เพื่อเร่งการสร้างเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจ พร้อมทั้งงานประมูลที่จะเร่งออก และจ่ายให้ผู้รับเหมา (S 9.2 R 9.8 SL 9.1)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- เริ่มเห็นสัญญาณ งบไตรมาส 4/66 ดีขึ้น ดีกว่าคาด รวมถึงราคาหุ้นที่เริ่มบวกสะท้อนงบการเงินที่ดีขึ้น
- รมว.คลังสหรัฐฯ สั่งเฝ้าระวัง สินเชื่อธนาคารเงา สหรัฐฯ
- เดินหน้าแจกเงินหมื่น ทีมเศรษฐกิจนายกประชุม 15 ก.พ.นี้
- MSCI Thailand Standard index ถอดหุ้นออก BANPU BJC OSP มีผลสิ้นเดือนนี้
- US CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบรายปีสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.9% จากระดับ 3.4% ในเดือน ธ.ค.
- ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 36.1% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 58% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI พร้อม กับให้น้ำหนัก 74.3% ที่เฟตจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.
- หุ้นบริษัทจีน 66 แห่งถูกถอดออกจากดัชนี MSCI China Index และดัชนี MSCI All Country World Index ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในรอบอย่างน้อย 2 ปี มีผล 29 ก.พ.นี้
GLOBAL INVESTING BRIEF: หุ้นสหรัฐฯ เริ่มพักความร้อนแรง แนะปรับเข้า KO, UNH
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- วานนี้ 3 ดัชนีหลักสหรัฐฯ ปิดลบราว 1.4-1.8% หลังสหรัฐฯ เผยเงินเฟ้อ (ดัชนี CPI] เดือน ม.ค. 67 เพิ่มขึ้น 3.1%YoY มากกว่าตลาดคาดที่ 2.9%YoY หลังราคาบ้านเพิ่มขึ้น 6%YoY และค่าเดินทางเพิ่มขึ้น 9.5%YoY อย่างไรก็ตี ราคาพลังงานปรับตัวลง 4.6%YoY ส่งผลให้ตัวเลขชะลอลงจากเดือนก่อนที่ 3.4%YoY ทำให้ Fed อาจยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. 67 จึงคาดเป็นปัจจัยกดดันภาพรวมหุ้นสหรัฐฯ ในระยะสั้น
- Coca-Cola (KO.US) เผยงบ 4Q66 ดีกว่าคาดก่อนตลาดเปิดเมื่อคืนนี้ โดยรายได้โต 6%YoY แตะ $10.9bn หนุนจากยอดขายน้ำอัดลมในสหรัฐฯ (36% ของรายได้) ที่โต 5%YoY และจากการ ขึ้นราคา 14%YoY ในช่วงปี 66 อีกทั้งเรายังมองบวกต่อรายได้ในปีนี้ หลังบริษัทคาดรายได้อาจโต 6-7%YoY ในช่วง 1Q67 หนุนจากยอดขายน้ำอัดลมในสหรัฐฯ ที่ยังโตราว 2%YoY ในช่วงเดือน ม.ค.67 ส่วนในเชิงมูลค่าหุ้น เรามองว่าน่าสนใจ หลัง P/E ปี 67 อยู่ที่ 22 2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ 23 5 เท่า
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงหยุดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน และจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ ขณะที่จีนเผยมูลค่าการนำเข้าชื้นส่วนยานยนต์ในช่วงเดือน ธ.ค. 66 เพิ่มขึ้น 9.1%YoY สู่ RMB21.7bn และยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในช่วงปี 66 เพิ่มขึ้น 12%YoY แตะ 30 ล้านคัน ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทำให้ปัจจุบันจีนมีจำนวนการครองรถยนต์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกด้วยจำนวน 340 ล้านคัน สะท้อนว่าจีนยังคงเป็นตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของยอดขาย
- Nio (9866.HK) เผยว่าเสร็จสิ้นการระดมทุนเพื่อนำเงินไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการชาร์จไฟฟ้า และการผลิตรถอัจฉริยะ โดยจำนวนเงินที่ระดมทุนได้ในครั้งนี้อยู่ที่ราว RMB3bn ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยหนุนความเป็นผู้นำด้านสถ้านีชาร์จที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ Nio ขณะที่ Bloomberg cons. เผยรายได้ในช่วงปี 67-70 มีแนวโน้มโตเฉลี่ยปีละ 30%YoY ด้าน TP อยู่ที่ HKD74.07 (upside 64.4%)
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- ตลาดหุ้นเวียดนามหยุดทำการเมื่อวานนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษญวน
- Vincom Retail (VRE.VN) เผยกำไรในช่วงปี 66 เพิ่มขึ้น 58.8%YOY แตะ VND4.4tn หนุนจากการส่งมอบโครงการอสังหาฯ และการจองเช่าพื้นที่จำนวนมาก โดยเรายังมองบวกต่อรายได้บริษัทในปีนี้ ที่ธุรกิจห้างสรรพสินค้า VRE อาจได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวเวียดนามที่กลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ด้าน TP อยู่ที่ VND33,841 (upside 54.5%)