บล.ฟินันเซีย ไซรัส:

KCE ELECTRONICS (KCE TB)

Demand ฟื้นช้ากว่าที่เคยคาด

  • ผู้บริหารปรับลดเป้ารายได้และมาร์จิ้นปี 2024 หลัง Demand พื้นช้ากว่าคาด
  • คาดหวังกลับมาฟื้นตัวใน 2H24 และจะกลับมาเดินหน้าขยายโรงงานใหม่อีกครั้งหลังเลื่อนมาจากปีก่อน
  • ปรับลดกำไรและราคาเป้าหมายเป็น 43 บาท คงคำแนะนำ ถือ ติดตามการฟื้นตัว

กำไร 4Q23 ต่ำกว่าคาด เพราะหยุดซ่อมบำรุงสายการผลิตนานกว่าปกติ

จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (14 ก.พ. 24) ผู้บริหารให้เหตุผลถึงสาเหตุที่รายได้ 4Q23 ต่ำกว่าคาดเป็น -5.4% q-q. -11.4% y-y เนื่องจากเป็นช่วง Low season ของยอดขาย Multilayer PCB กอปรกับซ่อมบำรุงเครื่องจักร และเคลียร์สต็อกที่ค้างอยู่ในโรงงาน จึงได้หยุดการผลิตโรงงานเป็นเวลารวม 15 วัน มากกว่าปกติที่มักหยุดซ่อมบำรุงไม่เกิน 5 วัน ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อคงค้างราว USD8 ล้าน คาดจะทยอยส่งมอบในช่วง 1Q24 ต่อไป จบปี 2023 บริษัทมีกำไรสุทธิลดลง 26% y-y เป็น 1,720 ลบ.

Demand ฟื้นตัวช้า ผู้บริหารปรับลดเป้าปี 2024 ทั้งรายได้และมาร์จิ้น

อย่างไรก็ตาม สาเหตุหลักของการหยุดซ่อมบำรุงที่นานกว่าปกติ เรามองว่ามาจาก Demand โดยรวมที่ยังไม่ฟื้น ผู้บริหารให้วิวแนวโน้ม 1H24 ที่ไม่สดใสนัก และคาดหวังการฟื้นตัวใน 2H24 ซึ่งจะมาจาก New business ที่กำลังคุยกับลุกค้า ขณะที่ Existing business น่าจะยังไม่ฟื้นได้เร็ว ดังนั้นผู้บริหารจึงปรับลดเป้ารายได้นปี 2024 เป็น 4-7%y-y จากเดิม 8-12% y-y และด้วยผลบวกจาก Economies of scale และ production efficiency อาจน้อยกว่าที่เคยคาด จึงปรับลดเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 24% จากเดิม 26-27% ขณะที่กลับมาเดินหน้าสร้างโรงงานใหม่ที่โรจนะในช่วง 2H24 (เลื่อนมาจากปี 2023) คาดจะแล้วเสร็จในปี 2025 และจะ Test Run ได้อย่างเร็วช่วงต้นปี 2026 โดยมีแผนใช้เงินลงทุนปี 2024 ราว 900 ลบ. ก่อนจะขยับขึ้นเป็น 3.7 พันลบ.ในปี 2025

ปรับลดกำไรปี 2024-25 ลง 20-22% แต่จะกลับมาโต y-y เพราะฐานต่ำ

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-25 ลง 20-22% เป็น 2 พันลบ. (+18.4% y-y) และ 2.4 พันลบ. (+17.8% y-y) ตามลำดับ แม้ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้ม HDI ที่น่าจะยังเติบโตได้ตามยอดขายรถยนต์ EV แต่ด้วยกำลังการผลิตส่วนนี้ค่อนข้างเต็ม โดยปี 2023 มีรายได้ USD113 ล้าน (24% ของรายได้รวม) ทรงตัว y-y โดยต้องรอโรงงานใหม่ที่โรจนะขึ้นก่อน (จะเป็นไลน์ HDI ราว 50% ของเฟสแรก) ขณะที่ Demand รถยนต์สันดาปไม่สดใส ซึ่งเป็นสัดส่วนราว 50% ของรายได้

ปรับลดเป้าหมายเป็น 43 บาท แม้มองผ่าน Bottom แต่ยังต้องติดตามการฟื้นตัว

ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2024 เป็น 43 บาท จากเดิม 60 บาท โดย De-rate PE ลงเป็น 25x (-0.5 SD) จาก 27x (เท่าค่าเฉลี่ย) ระยะสั้นคาดกำไร 1Q24 จะฟื้นตัวเป็น 516 ลบ. (+8% q-q, +50% y-y) ยังมองว่าผ่าน Bottom ไปแล้ว เพียงแต่การฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยคาด และยังต้องติดตามการพื้นตัวต่อไป จึงคงคำแนะนำ ถือ ตามเดิม ด้วย Upside ที่จำกัดเพียง 6% และกำลังเข้าสู่ช่วงการลงทุนครั้งใหญ่ในปี 2024-26 แหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดในกิจการและกู้ธนาคารเป็นหลัก

Investment thesis

เรามีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อแนวโน้มการพื้นตัวในปี 2024 จากคำสั่งซื้อใน 4Q23 ที่ฟื้นช้ากว่าคาด ขณะที่ภาพเศรษฐกิจโลกยังผันผวน และอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง กอปรกับผู้บริหารปรับลดเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2024 ลงเป็น +4-7% y-y จากเดิม 8-12% y-y และปรับลดเป้าอัตรากำไรขั้นต้นลงเป็น 24% จากเดิม 26-27% ด้วยผลบวกของ Economies of scale ที่ลดลงบริษัทเลื่อนแผนก่อสร้างโรงงานใหม่ที่โรจนะออกไปเป็น 2H24 จากเดิม 2023 จากภาพรวม Demand ที่พื้นตัวช้า หากก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2025 คาดจะเริ่ม Test Run ได้อย่างเร็วในช่วงต้นปี 2026

Company profile

KCE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ PCB (Printed Circuit Board) โดยมีฐานลูกค้าหลักอยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์คิดเป็นสัดส่วนราว 70% ของรายได้รวม ที่เหลืออีก 30% อยู่ในกลุ่ม Consumer และ Industral สิ้นปี 2023 บริษัทมีรายได้จากการส่งออกไปยุโรป 49.4% รองมาคือ สหรัฐ 22.9%, จีน 12.6%, เอเชีย 5.1% และไทย 10%

www.kcethai.in.th

Catalysts

ปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 2024 คือ 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และยอดขายรถยนต์ทั่วโลกพื้นตัวเร็วกว่าคาด 2) การลดลงของราคาต้นทุนวัตถุดิบ 3) ประสิทธิภาพการผลิตสูงขึ้น จากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น และ 4) การขยายกำลังการผลิตได้ตามแผน

Risks to our call

Downside และ Upside risks ต่อราคาเป้าหมายของเรา คือ 1) เศรษฐกิจโลกและยอดขายรถยนต์พื้นตัวช้ากว่าหรือเร็วกว่าคาด 2) ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงมากกว่าคาด 3) ค่าเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่ามากกว่าคาดและ 4) ต้นทุนค่าแรงปรับตัวสูงขึ้น หรือประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน

- Advertisement -