วันนี้คาดตลาด “Rebound”

แนวรับ 1,378 / 1,372 แนวต้าน 1,388 / 1,400

คาดตลาดรีบาวด์ หลังเมื่อวานนี้รับรู้เกี่ยวกับการตรึงอัตราดอกเบี้ยของ FED ไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ Dollar Index และ US-Bond Yield เริ่มชะลอตัวลง คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นได้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงตามตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมามากกว่าคาด อาจกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง

Our View? “แล้วไงใครแคร์”

คาดตลาดวันนี้ “Rebound” มองแนวรับที่บริเวณ 1,378 / 1,372 และแนวต้านที่บริเวณ 1,388 / 1,400 เรามองตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อวานนี้อ่อนตัวลงรับรู้ประเด็นธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยยาวนานกว่าที่ตลาดคาดไว้ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ม.ค. ออกมา +0.3%MoM/+3.1%YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้า แต่สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ ขณะที่ตัวเลข Core CPI เดือน ธ.ค. ออกมา +0.4%MoM/+3.9% มากกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน สะท้อนเงินเฟ้อสหรัฐยังลดลงช้ากว่าที่ตลาดประเมิน อย่างไรก็ตามเรามองหากพิจารณาการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED หลังจบการประชุม FOMC ที่คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในช่วง 3Q’67 คาดจะส่งผลให้ตลาดฟื้นตัวกลับขึ้นได้บ้าง สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) เริ่มชะลอตัวลงแล้วเช้านี้อยู่ที่ระดับ 104.71 เช่นเดียวกันกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.23%+/- ชะลอตัวลงเช่นกันหลังดีด ตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ คาดจะส่งผลให้ตลาดฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับตัวผันผวนก่อนอ่อนตัวลงปิดที่ระดับ 76.64 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.23 ดอลลาร์ (-1.58%) แม้จะได้รับแรงหนุนจากการที่ OPEC เปิดเผยรายงานภาวะน้ำมันเดือน ก.พ. คาดอุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัว 2.25 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 67 รวมทั้งความไม่แน่นอนจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งในฝั่งตะวันออกกลางและรัสเซีย-ยูเครน อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมาเพิ่มขึ้นกว่า 12 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่ตลาดคาด สะท้อนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลง คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรายังมีมุมมองเชิงบวกอ่อยๆ ต่อการที่ ตลท. ประกาศปรับเกณฑ์เปิดเผยรายชื่อผู้ถือหลักทรัพย์ตั้งแต่ 0.5% ขึ้นไปเริ่มตั้งแต่ 19 ก.พ. นี้ คาดจะช่วยลดความผันผวนของตลาดได้ อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเป็นกลางต่อการที่ ตลท. เปิดเผยเตรียมดำเนินการเพื่อป้องกันการเกิด Naked Short และการใช้ Program Trading อย่างไม่เหมาะสม 4 ด้าน โดยจะ 1.) เพิ่มกลไกการควบคุม Program Trading และการ Short Selling 2.) ปรับปรุงการรายงาน Short Selling 3.) ติดตามและบังคับใช้กฎเกณฑ์ในการดูแล และ 4.) กำหนดขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานกำกับ ดูแลและตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้เราคาดตลาดยังติดตามการประกาศผลประกอบการของ บจ. ในตลาดหุ้นไทยต่อ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้คาดการณ์ EPS ของตลาดหุ้นไทยปี 67 อีกทั้งเรายังมองตลาดยังรอติดตามแนวโน้มในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ตามเรามองผลการประชุม กนง. ในครั้งที่ผ่านมา เป็นการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วง 2H’67 คาดจะกดดันทิศทางกระแสเงินทุนไหลเข้าได้ในระยะแรก แต่มองเป็นปัจจัยช่วยหนุนทิศทางเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นต่อในระยะกลาง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “PTTGC”

  • เรามองราคา PTTGC ในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงรับรู้ความอ่อนแอของผลประกอบการในช่วงปี 66 จากทั้งธุรกิจเคมีภัณฑ์โพลิเมอร์และโรงกลั่นไปค่อนข้างมากแล้ว อย่างไรก็ดีเราคาดความหวังการฟื้นตัวขึ้นของธุรกิจปิโตรเคมีในช่วง 2H’67 โดยเราเริ่มเห็น Spread ของ HDPE ฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว คาดจะหนุนราคารีบาวด์กลับขึ้นได้บ้าง
  • ทางเทคนิค แกว่งตัวขึ้นยืนเหนือ EMA10 วันได้ต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD ฟื้นตัวขึ้น พร้อม SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “เล่นรีบาวด์” แนวรับ 36.00 / 34.50 Target 40.50 / 43.00 Stop <33.50

 

- Advertisement -