บล.ฟิลลิป:

เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ – KCE

ปี 67 เน้นบริหารต้นทุนหวัง GPM ดีขึ้น

Key Point

ตลาด PCB ชะลอตัว ทำให้ KCE ตัดสินใจหยุดโรงงานนานกว่าปกติ เพื่อประหยัดต้นทุนที่สิ้นเปลืองจากการมีอัตรากำลังผลิตที่ต่ำ ส่งผลให้ 4Q66 มีกำไรสุทธิอ่อนตัว กำไรทั้งปี 66 อ่อนตัว 25.8%y-y คาดว่ายังเห็นตลาดฯ อ่อนตัวจนถึง 1H67 KCE จึงเน้นการบริหารต้นทุนในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ GPM ทยอยปรับตัวดีขึ้น และเห็นกำไรทยอยฟื้นตั๋วไปทีละไตรมาส ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสในการลงทุนเพื่อหวังการเติบโตในครึ่งปีหลัง

ตลาด PCB อ่อนตัว 4Q66 มีหยุดโรงงานเพื่อลดต้นทุน

4Q66 คำสั่งซื้อ Multiplayer PCB น้อยกว่าปกติ แม้ HDI จะขยายตัวแต่ยังมีสัดส่วนที่น้อย ทำให้ระดับการผลิตในบางส่วนงานน้อยลง อัตรากำลังผลิตต่ำลงมาที่ 70% ทางเลือกในการหยุดโรงงานจึงเป็นการประหยัดต้นทนที่ดีกว่า เพื่อลดระดับสต๊อกลง ทำให้ work in process ดีขึ้น Cash flow ดีขึ้น balance sheet ดีขึ้น มีการหยุดผลิตประมาณ 15 วัน ส่งผลต่อรายได้รวมลดลงที่ 4,095 ลบ. -11.4%y-y -5.4%q-q อัตรากำไรขั้นต้น 22.4% ดีขึ้น y-y และ q-q และมีบัตร BOI ที่หมดอายุ (ขอบัตรใหม่ได้ในปลายเดือน ก.พ.67) ทำให้มีค่าใช้จ่ายทางภาษีเพิ่มขึ้น กำไรสุทธิ 478 ลบ. -4.4%y-y – 7.9%q-q กำไรสุทธิทั้งปี 66 ที่ 1,720 ลบ. -25.8%y-y ความต้องการอิเล็กทรอนิกส์ลดลงอย่างมากในช่วง 1H66 เกิดสินค้าคงค้างที่สูง ด้านต้นทุนราคาทองแดงมีการปรับตัวลงแต่ถูกชดเชยด้วยต้นทุนค่าไฟที่สูง ซึ่งเป็นต้นทุนหลัก สถานการณ์และการบริหารต้นทุนเริ่มปรับตัวดีขึ้น และค่าไฟลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้อัตราการผลิตทั้งปี 66 อยู่ระดับ 77% แต่ถือว่ายังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติ

ปี 67 เน้นบริหารูต้นทุนให้ดีขึ้น

ปี 67 อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ระดับสูง เป็นปัจจัยกดดันยอดขายรถยนต์ทั่วโลก คาดว่าการชะลอตัวของตลาด PCB ยังเห็นอยู่ใน 1H67 และ KCE มีการปรับราคาขายเฉลี่ย PCB ลดลงราว 2% ตามต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงเมื่อปีที่ผ่านมา แต่คาดว่ารายได้รวมยังเติบโตราว 5.4%y-y ณ ค่าเงิน 35.50 บาท/ดอลลาร์ จากมีลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามาสามารถคาดผลิตได้ช่วง 2H67 และ HDI ปีนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังเติบโตได้ราว 10%y-y ส่วนบริษัทฯเองเน้นบริหารต้นทุนโดยหลักมาจากปีนี้มีการผสมเคมีเอง, การเปลี่ยนกระบวนการจาก normal exposure เป็น laser process ทำให้ช่วยลดจำนวนแรงงานและประหยัดค่าไฟได้เพิ่ม และต้นทุนวัตถุดิบคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยในปีนี้ คาดจะทำอัตรากำไรขั้นต้น 22 5% ดีขึ้น y-y กำไรสุทธิ 2,014 ลบ. +17.1%y-y

คาด 1Q67 กำไรปกติยังทรงตัว q-q

คาด 1Q67 รายได้เติบโต q-q เล็กน้อย จากการดันอัตราการผลิต HDI เพิ่มขึ้นเพื่อให้โรงงานผลิตได้เต็มไตรมาส แต่จะถูกชดเชยเล็กน้อยไปกับราคาขายเฉลี่ย PCB ที่ลดลง และค่าไฟที่ปรับเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นต้นทุนหลัก คาดว่ากำไรปกติยังคงทรงตัว q-q และจะมีกำไรพิเศษเข้ามาช่วยจากการขายที่ดินและโรงงานของบริษัท เค ซี อี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งทางบริษัทฯอยู่ระหว่างประเมินราคาขาย

ก่อสร้างโรงงานใหม่เริ่มใช้ปี 69 / ส่วน Red sea กระทบเล็กน้อย

การก่อสร้างโรงงานใหม่ที่โรจนะงบประมาณรวม 7 พันลบ. คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 69 ส่วนเรื่อง Red sea กระทบเล็กน้อย ซึ่ง KCE มี CIF ทางเรือที่ส่งไปยังยุโรปสัดส่วนไม่ถึง 10% ค่าขนส่งคิดเป็น 1-2% ของต้นทุนถือว่าไม่มีนัย

จับจังหวะลงทุนขณะราคาหุ้นอ่อนตัว

จากที่ประชุมเมื่อวานนี้ ทำให้ทางฝ่ายฯปรับรายได้ลง อิงตามคาดการณ์ของผู้บริหาร ปรับกำไรสุทธิลงอีก 8.7% อยู่ที่ 2,014 ลบ. +17.1%y-y ประเมินราคาหุ้น โดยใช้ที่ 29.8 เท่า ปรับลดราคาพื้นฐานลงมาที่ 50.75 บาท มองว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นไปทีละไตรมาส และปัจจุบันไม่ได้มีการ์หยุดผลิตเหมือนไตรมาสก่อนหน้าแล้ว สามารถจับจังหว่ะลงทุนขณะราคาหุ้นอ่อนตัวในช่วงนี้เพื่อคาดหวังการเติบโตของ KCE ในช่วง 2H67 และทิศทางอัตราดอกเบี้ย FED ที่คาดว่าจะเริ่มปรับลงภายนปีนี้ เป็นปัจจัยรอสนับสนุนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. กระบวนการผลิตที่มีหลายขั้นตอนอาจส่งผลต่ออัตราส่วนสูญเสียให้มีมาก
  2. ด้านการตลาดและการแข่งขันทางุรกิจส่งผลให้มีการแข่งขันด้านราคา
  3. ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
- Advertisement -