บล.บัวหลวง:

Srisawad Corporation (SAWAD TB /SAWAD.BK)

SAWAD – จังหวะเข้าลงทุนที่ดี

ราคาหุ้นปรับตัวลงราว 22% ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 2566 โดย PER ปี 2567 ของ SAWAD ในปัจจุบันอยู่ที่เพียง 10 เท่า ขณะที่เราคาดการเติบโตสะสมเฉลี่ยของกำไรสุทธิปี 2567-68 ที่ 11% หนุนจากการให้สินเชื่อ นอกจากนี้คุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มการเงินจะปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ เรามองเป็นจังหวะการเข้าลงทุนที่ดี

ระดับมูลค่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ราคาหุ้นของ SAWAD ปรับตัวลง 22% ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 2567 โดย ปัจจุบัน PER ปี 2567 อยู่ที่ 10 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 9 ปีอยู่ 1.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) แต่เราคาดการณ์การเติบโตสะสมเฉลี่ยของกำไรสุทธิต่อหุ้นในปี 2567-68 ที่ 11% ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน PEG ที่ 0.9 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มการเงินที่เราให้คำแนะนำที่ 1.1 เท่า) นอกจากนี้ PBV ณ สิ้น ปี 2567 อยู่ที่ 1.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 9 ปีอยู่ 1.6 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 จะเติบโต YoY (แต่ลดลง QoQ)

เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 1.24 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% YoY (การเติบโตของสินเชื่อ) แต่ลดลง 10% QoQ (NIM ที่ลดลงและการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น) เราคาดว่าสินเชื่อไตรมาสนี้จะเติบโต 75% YoY และ 5% QoQ นำโดยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถจักรยานยนต์ใหม่ การเติบโตของสินเชื่อน่าจะมีกลบผลกระทบของ NIM ที่ลดลงมาอยู่ที่ 16.61%ลดลง 300bps YoY และ 87bps QoQ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นสมมติฐานการตั้งสำรองของเราในไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 1.9% เพิ่มขึ้น 76bps YoY และ 51bps QoQ อัตราส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 2.71% ณ สิ้นเดือนก.ย. ไปเป็น 3.00% ณ สิ้นปี 2566

เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุน/รายได้ในไตรมาส 4/66 จะอยู่ที่ 55% เพิ่มขึ้นจาก 49% ในไตรมาส 4/65 และ 53.6% ในไตรมาส 3/66 จากการขาดทุนจากการขายมอเตอร์ไซค์ยึดที่มากขึ้น โดยเราคาดว่าขาดทุนจากการขายมอเตอร์ไซค์ยึดจะอยู่ที่ 400 ล้านบาทในไตรมาส 4/66 เพิ่มขึ้นจากราว 300 ล้านบาทในไตรมาส 3/66 ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/67 เราคาดว่าขาดทุนจะน้อยลง QoQ จากการขายมอเตอร์ไซค์ยึด เนื่องจากเราคาดว่าปริมาณขายมอเตอร์ไซค์ยึดจะลดลง

อัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันที่ต่ำลงจะหนุนคุณภาพสินทรัพย์

เราคาดคุณภาพสินทรัพย์ของ SAWAD จะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การขยายธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถในปี 2567 (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมีความเสี่ยงต่ำกว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่) นอกจากนี้อัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ของกลุ่มการเงินสำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 45% (ลดลงจาก LTV ที่ราว 50% ในครึ่งแรกของปี 2566) และเงินดาวน์สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นจาก 0% ในปี 2565 มาอยู่ที่ระดับ 10-30% เพื่อลดความเสี่ยง

ปรับลดประมาณการกำไร 2% สำหรับปี 2566 และ 3% สำหรับปี 2567

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลง 2% มาเหลือ 5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11% YoY) เราได้ปรับลดคาดการณ์สินเชื่อปี 2566 ลง 2% และเพิ่มสมมติฐานอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้เป็น 51% เนื่องจากการขาดทุนจากการขายมอเตอร์ไซค์ยึดคืนจำนวนมากขึ้น เรายังปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลง 3% มาเหลือ 5.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10% Yoy)

สำหรับไตรมาส 1/67 เราคาดกำไรสุทธิที่ 1.27 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YOY และ 2% QoQ หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 56% YoY และ 4% QoQ ซึ่งน่าจะกลบผลกระทบของ NIM ที่ลดลงและการตั้งสำรอง ที่มากขึ้น

- Advertisement -