บล.พาย: 

CK: CH-Karnchang PC

อยู่ในช่วงรายได้สูง

เราคาดกำไรสุทธิงวด 4Q23 จะอยู่ที่ 150 ล้านบาท (+34%YoY, -77%QoQ) ยังคงอยู่ในช่วงของการได้รับผลดีจากฐาน Backlog ที่อยู่ในระดับสูงกว่า 130,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้รายได้ในงวดดังกล่าวสูงถึง 9,100 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากโครงการเขื่อนหลวงพระบาง ซึ่งรายได้ที่ออกมาดังกล่าวทำให้รายได้ทั้งปีสูงถึง 36,728 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 24 ที่เราเคยทำไว้ ทำให้เราอาจจะมีการปรับประมาณการใหม่หลังผลประกอบการประกาศออกมา ทั้งนี้เรามองว่า CK จะได้รับผลดีจากการที่ภาครัฐเตรียมผลักดันโครงการขนาดใหญ่ ออกมาซึ่งจะช่วยเพิ่ม Backlog ได้อย่างมาก ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม และประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 27.2 บาท (1.7XPBV’24E)

คาดกำไร 4Q23 ที่ 150 ล้านบาท (+34%YoY, -77%QoQ)

  • เราคาดว่า CK จะมีกำไรสุทธิงวด 4Q23 ที่ 150 ล้านบาท (+34%YoY, -77%QoQ) เติบโตจากปีก่อนเพราะมีรายได้จากโครงการหลวงพระบาง ส่วนการลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าเพราะไม่มีเงินปันผลรับเข้ามากว่า 200 ล้านบาท
  • รายได้คาดที่ 9,158 ล้านบาท (+134%YoY, +3%QoQ) กลับมาสูงกว่า 9,000 ล้านบาทได้อีกครั้ง จากผลดีของฐาน Backlog ที่มีกว่า 130,000 ล้านบาท
  • กำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 6.9% ลดลงจาก 7.7% ใน 4Q22 และ 7.4% ใน 3Q23 ส่วนหนึ่งมาจากงานเขือนหลวงพระบางที่มีกำไรขั้นต้นน้อยกว่าปกติ ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 586 ล้านบาท (+22%YoY, +10%QoQ) เพราะมีค่าใช้จ่ายโบนัสพนักงานเข้ามา
  • ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดที่ 404 ล้านบาท +67%YoY ส่วนใหญ่มาจาก BEM ที่ผลประกอบการดีขึ้น ส่วนเทียบกับ 3Q23 จะลดลง 32% เพราะไม่ใช่ช่วงไฮซีชั่นของ CKP
  • รวมทั้งปีเราคาดว่า CK จะมีกำไรสุทธิ 1,495 ล้านบาท (+35%YoY) ต่ำกว่าที่เราเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้เล็กน้อย สาเหตุหลัก มาจากกำไร ขั้นต้นในช่วง 4Q23 ที่ออกมาไม่ดีนัก

มีโอกาสปรับรายได้ปี 24 ขึ้น

จากรายได้ในปี 23 ที่คาดว่าจะสูงถึง 36,728 ล้านบาท สูงกว่ารายได้ในปี 24 ที่เราประเมินไว้ที่ 36,317 ล้านบาท ซึ่ง CK มี Backlog เริ่มปี 24 อยู่กว่า 120,000 ล้านบาท ทำให้เราอาจจะมีการปรับประมาณการรายได้ขึ้นจากเดิมหลังการประกาศผลประกอบการ โดยรายได้หลักในปีนี้คาดว่าจะมาจากโครงการเขื่อนหลวงพระบาง, รถไฟฟ้าสายสีม่วงตอนใต้ และรถไฟฟ้าทางคู่เส้นทางเด่นชัย-เชียงของ

ด้านการเพิ่ม Backlog ในปี 24 เราคาดว่าโครงการที่เข้ามาจะมีทั้งจากงานของบริษัทลูกอย่าง BEM ในโครงการ Double Deck มูลค่ากว่า 35,000 ล้านบาท รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีส้มเส้นทาง บางขุนนนท์-มีนบุรี ที่รอเซ็นสัญญาอยู่มูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท และงานประมูลภาครัฐ ที่คาดว่าจะเปิดประมูลเช่นรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย หรือรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย หลังการประกาศใช้งบประมาณรัฐบาลปี 24

แนะนำ “ซื้อ” เพราะงานในมือสูง + ลูกๆดี

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เพราะมองว่า CK เป็นผู้ประกอบการรับเหมาที่มีงานในมือสูง ทำให้รับมือกับความล่าช้าในการเปิดประมูลงานใหม่ภาครัฐได้ รวมถึงผลประกอบการของบริษัทลูกที่คาดว่าจะเติบโตต่อโดยเฉพาะ BEM ทั้งนี้เราประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 27.2 บาท (1.7 xPBV’24E)

- Advertisement -