บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
CP AXTRA (CPAXT TB)
กำไรปกติที่น่าประทับใจ
- กำไรปกติ 4Q23 ออกมาที่ 3.28 พัน ลบ. (+91% q-q, +22% y-y) สูงกว่าที่เราคาด 6% และที่ตลาดคาด 15%
- เราเห็นแนวโน้มเชิงบวกจากแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ
- เราคงคำแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 36 บาท
CPAXT รายงานกำไรปกติที่น่าประทับใจใน 4Q23
CPAXT รายงานกำไรปกติ 4Q23 อยู่ที่ 3.28 พัน ลบ เพิ่มขึ้น 91% q-q จากปัจจัยด้านฤดูกาลและ 22% y-y ส่วนมากจากยอดขายที่โตขึ้นและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง ยอดขายปลีกโต 4% y-y โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ทั้งในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกด้วยตัวเลข 1.7%, 5.8% และ 3.6% (Lotus’s มาเลเซีย) ตามลำดับ อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอยู่ที่ 14.0% เพิ่มขึ้น 20 bps q-q โดยได้ปัจจัยหนุนจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์อาหารสดในธุรกิจค้าปลีกแต่ลดลง 30 bps y-y จากกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 34% y-y จากการปรับโครงสร้างหนี้
แนวโน้มเชิงบวกจากแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ
CPAXT ประกาศแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ประกอบด้วยการโอนธุรกิจทั้งหมดของ Lotus’s Stores (Thailand) Co., Ltd. และรวมกิจการของ CP Axtra PCL. และ Ek-Chai Distribution System Co., Ltd. รายการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อ 1) เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค โดยจะเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า, 2) เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและความคล่องตัวของการดำเนินงานในกลุ่ม CPAXT, 3) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากประโยชน์ของการควบรวมกิจการ, 4) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการเงิน, และ 5) เพื่อให้การสนับสนุนแก่เกษตรกรในประเทศผู้ผลิตขนาดเล็กและ SME
SSSG ในช่วง 1QTD น่าจะโตต่อเนื่อง โดยได้ปัจจัยหนุนจากเทศกาลตรุษจีน
สำหรับแนวโน้ม SSSG ในช่วง 1QTD ธุรกิจค้าส่งอาจรายงานตัวเลขเพิ่ม 4-5% โดยได้ปัจจัยหนุนจากอาหารแห้งและอาหารสด ธุรกิจค้าปลีกน่าจะโต 5-6% โดยเป็นการเติบโตในทุก format ในขณะที่กำไรปกติปี 2024-25 น่าจะโต 21% และ 17% ตามลำดับ โดยได้ปัจจัยหนุนจาก SSSG ของทั้ง 2 ธุรกิจตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวและการบริโภค นอกจากนี้เรายังคาดด้วยว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับขึ้นจากการมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์อาหารสดในธุรกิจค้าปลีก
เราคงคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 36 บาท
เราคงคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 36 บาท เนื่องจากเราคาดว่าผลประกอบการจะโตต่อเนื่องหลังหันกลับไปให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์อาหารสดและ Private label นอกจากนี้เรายังคาดด้วยว่า Omnichannel จะโตได้จากการควบคุมต้นทุนและประโยชน์จากการควบรวมของ 2 ธุรกิจ