ท้ายฤดูเผยงบ ต้นฤดูปันผล / 1,380 – 1,390

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งออกข้างต่อไป: ทางฝ่ายมองปัจจัยหนุนตลาดในเชิงบวกมาจาก 1) คมนาคมจีนประมาณการวันเสาร์ 17 ก.พ. ว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้มีผู้เดินทางแล้วกว่า 2.3 พันล้านครั้ง ซึ่งจะช่วยเสริมด้านการจัดจับจ่ายใช้สอยและจะช่วยหนุนเศรษฐกิจจีนให้ฟื้นตัว และจะส่งผลดีต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีน 2) แรงเก็งกำไรในหุ้นก่อนจ่ายปันผลในสัปดาห์นี้ ได้แก่  INTUCH, THCOM และ PTTGC อย่างไรก็ตาม วันนี้ ADVANC ขึ้น XD 4.61 บาท, PTTEP 5.25 บาท คาดกระทบดัชนี SET ราว 2.8 จุด (0.2%) นอกจากนี้สัปดาห์นี้ยังอยู่ในช่วงฤดกาลเผยงบงวดปี 66 ทางฝ่ายจึงมองแรงเก็งกำไรแบบ Selective ยังสำคัญ นำโดย TU, BDMS, TRUE และ WHA เป็นต้น และ 3) แรงเก็งกำไรในหุ้นก่อนที่ดัชนี FTSE จะนำเข้าคำนวนจากประกาศเมื่อวันศุกร์ 16 ก.พ. ซึ่งจะมีผล 15 มี.ค.นี้ ขณะที่ปัจจัยกดดันทางฝ่ายมองจากด้วยปัจจัยกดดันจาก 1) Sentiment จากฝั่งสหรัฐที่ปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งกดดันจากดัชนี PPI ที่มากกว่าคาด 0.6%y-y, 0.1%m-m สู่เดือน ม.ค. ที่ 0.9%y-y, 0.3%m-m นอกจากนี้ ประธานเฟดสาขาแอตแลนตาและสาขาซานฟรานซิสโก ยังแสดงความเห็นระมัดระวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นถูกกดดันจากความกังวลว่าเฟดจะไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย โดย CME Fed Watchtool ยังมองโอกาสลดดอกเบี้ยครั้งแรกอยู่ช่วงประชุมเดือน มิ.ย.67 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม แรงกังวลดังกล่าวเริ่มลดลงไปบ้าง ในภาคเช้าวันนี้ โดยดาวโจนส์ฟิวเจอร์สได้บวกในภาคเช้า 2) ค่าเงินบาทยังมีทางหลักอ่อนค่าเช้านี้ทดสอบ 35.9 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อ Fund-flow ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย โดยต่างชาติขายหุ้นไทยแล้วกว่า 3.1 หมื่นลบ. YTD อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มส่งออก
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) บาทอ่อน: NER, SAPPE, SNP, STA, TU 2) Spending: CPALL, CPAXT, HTC 3) เก็งงบ 4Q66: BEM, BGRIM, ONEE 4) Defensive play: BCH, BCPG, PR9 และ 5) Dividend play: BRI, SC, SAT, SPALI, TISCO

ปัจจัยบวก

  • ธอส. หนุนคนไทยมีบ้าน เตรียมกรอบวงเงิน 3.75 หมื่นลบ. จัดทำ 4 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ให้สามารถลดภาระการผ่อนชำระเงินงวดให้ต่ำลง
  • บลูมเบิร์กเผยในช่วง 6 วันแรกของเทศกาลตรุษจีน มีการเดินทางด้วยรถไฟมากกว่า 61 ล้านเที่ยว ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 5 ปี และเพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลตรุษจีนเมื่อปีที่แล้ว เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในจีน
  • อังกฤษเผยยอดค้าปลีกของปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.4% m-m ในเดือนม.ค.67 มากกว่าตลาดคาดที่ขยายตัว 1.5% m-m และพลิกฟื้นจากเดือนธ.ค.ที่ร่วงลง 3.3% m-m

ปัจจัยลบ

  • ปธ.เฟดแอตแลนตาเผยว่าเฟดจะไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากตลาดแรงงานและศก.สหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง พร้อมกับแสดงความเห็นอย่างระมัดระวังว่าขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเงินเฟื้อของสหรัฐฯกำลังปรับตัวสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างยั้งยืนหรือไม่
  • ศูนย์วิจัยกรุงไทยคาด GDP ไทยปี 67 เติบโตเพียง 2.7% จากคาดว่าการส่งออกจะขยายตัวจำกัดเพียง 1.8%, รายได้ภาคท่องเที่ยวที่ยังต่ำกว่าช่วงโควิด และปัญหาหนี้สินระดับสูง
  • Nike ประกาศเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 1.6 พ้นตำแหน่ง หรือ 2% จากพนักงานทั้งหมดราว 8.37 หมื่นราย ตามแผนการลดต้นทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลาร์ในช่วงระยะ 3 ปีนี้ อันเนื่องมาจากผลประกอบการลดลง
  • ดัชนี MSCI China จะคัดหุ้นจีนออก 66 บริษัท มีผลตั้งแต่ 29 ก.พ. 67 นี้ โดยเฉพาะกลุ่ม บ.พัฒนาอสังหาฯสะท้อนความกังวลต่อ ศก.จีน, ความไม่มั่นคงท่างการเงิน และความเสี่ยงด้านกฎระเบียบของจีน

PICKS OF THE DAY

СРАХТ BUY

  • เป้าหมาย 34.50 / 35.50 แนวรับ 32.00
  • กำไรออกมาดี ปีนี้ยังโตต่อ : กำไรสุทธิใน 4Q66 ออกมาที่ 8,640 ล้านบาท (+ 12%y-y) จากการเติบโตของSSSGและ การเปิดสาขาใหม่ โดยในปี 67 ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มยอดขายนอกร้านอีก 15% และขยายสาขาแม็คโครในไทยอีก 8 สาขา พร้อมรุกเพิ่มสาขาโลตัสทั้งในไทยและมาเลเซีย รวม100 สาขา นอกจากนี้มองการปรับโครงสร้างภายในจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดการและทรัพยากร ลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้น
  • ขยายเวลาจำหน่ายสุรา หนุนธุรกิจ: าด 19 ก.พ. นี้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะพิจารณาขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หากมีการอนุมัติมาตรการดังกล่าวออกมา จะส่งผลดีต่อธุรกิจ เนื่องจากเป็นผู้กระจายสินค้ารายใหญ่ทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหาร

NER BUY

  • เป้าหมาย 5.60 / 5.80 แนวรับ 5.30
  • คาด 4Q66 เติบโต y-y และ q-q: คาดปี 66 ยังคงทำปริมาณขายได้ตามเป้าราว 5 แสนตัน ซึ่งจะทำให้ 4Q66 ขายได้ราว 1.286 ตัน ปริมาณขายสูงขึ้น q-q และราคาขายเฉลี่ยคาดจะปรับตัวดีขึ้น q-q ซึ่งเราคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตขึ้นทั้ง y-y และ q-q คาดจ่ายปันผลครึ่งปีหลังอีก 0.27 บาท คิดเป็น Div. yield 4.95% หากรวมกับ yield ที่จ่ายในช่วง 1H66 จะได้ 6.03% ซึ่งราคาปัจจุบันนี้ถือว่ายังให้ yield สูงกว่าผลตอบแทนปันผล 5 ปีย้อนหลังที่ 5.39%
  • ราคายางปีนี้ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง: ปี 67 ผู้บริหารตั้งเป้าปริมาณขาย 5.1 แสนตัน แม้จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่ปีนี้จะได้ประโยชน์จากราคายางที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้า เมื่อต้นปีราคายางแท่ง STR20 อยู่แถว 53 บาท/กก. แต่ปัจจุบันราคาปรับตัวขึ้นแถว 58-59 บาท/กก. ปรับตัวขึ้นกว่า 10.4%
- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน