บล.ฟิลลิป:
THANI: 4Q66 กำไรน้อยกว่าคาดมาก
ทยอยซื้อ ТР’67: 2.60
กำไร 4Q66 น้อยกว่าคาด จากการตั้งสำรอง และต้นทุนดอกเบี้ยสูงกว่าคาด และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรลดลงมากทั้ง y-y และ q-q ในขณะที่สินเชื่อไม่เติบโต NPPL เพิ่มสูงขึ้น ทางฝ่ายคาดว่าการตั้งสำรอง รวมไปถึงต้นทุนดอกเบี้ยจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 67 ทำให้ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไร และราคาพื้นฐานลงเหลือ 2.60 บาท ทำให้ส่วนต่างเหลือน้อยลง ทำให้ปรับลดคำแนะนำลงมาเป็น “ทยอยซื้อ”
งบรวม | 4Q66 | 3Q66 | 4Q65 | % y-y | %q-q | 2566 | 2565 | % y-y |
กำไร | 161 | 250 | 353 | -54.3 | -35.6 | 1,287 | 1,753 | 26.6 |
EPS | 0.03 | 0.04 | 0.06 | -54.3 | -35.6 | 0.23 | 0.31 | 26.6 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- 4Q66 กำไร ลดลง y-y และ q-q ต่ำกว่าคาดมาก: 4Q66 กำไร 161 ลบ. ต่ำกว่าที่คาดมาก เนื่องจากการตั้งสำรอง และต้นทุนดอกเบี้ยสูงกว่าคาด และต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการตั้งสำรองที่สูงขึ้นนี่เองเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรลดลัง 54.3% y-y และ 35.6% q-q ถึงแม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยจะยังเพิ่มขึ้นได้ก็ตาม
- กำไรปี 66 ลดลง 26.6% y-y: ปี 66 THANI มีกำไร 1.3 พันลบ. ลดลงถึง 26.6 % y-y ส่วนใหญ่เป็นเพราะการตั้งสำรอง รวมไปถึงผลขาดทนจากการขายรถยึดที่เพิ่มขึ้นมาก โดยสินเชื่อเติบโตเพียงเล็กน้อย 0.4% y-y ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อเงินให้กู้ยืม ในขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อให้เช่าทางการเงินนั้นหดตัว นอกจากนี้ NPL ยังเพิ่มขึ้นด้วยเป็น 3.2% จากที่มีอยู่ 2.8% ในไตรมาสก่อน และ 2.5% ณ สิ้นปี 65
- ปรับลดประมาณการ และราคาพื้นฐานลง: ยังคาดว่าการตั้งสำรอง และผลขาดทุนรถยึดอาจจะยังสูงต่อเนื่อง ไปในปี 67 นอกจากนี้ต้นทุนดอกเบี้ยน่าจะทยอยเพิ่มสูงขึ้นต่อในช่วง 1H67 ทำให้ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไรปี 67 ของ THANI ลงเหลือ 1.3 พันลบ. จากเดิมที่คาดไว้ 1.5 พันลบ. และลดลงจากปี 66 2.2% ปรับราคาพื้นฐานลงมาเหลือ 2.60 บาท มีส่วนต่างน้อยลง จึงปรับลดคำแนะนำลงมาเป็น “ทยอยซื้อ” จากเดิมที่แนะนำ “ซื้อ”