บล.พาย:

DOHOME: Dohome PCL

4Q23 พลิกกลับมามีกำไร

มีกำไรสุทธิ 197 ล้านบาทใน 4Q23 พลิกจากขาดทุน 51 ล้านบาทใน 4Q22 หลักตัดรายการพิเศษจากรายได้สินไหมประกันน้ำท่วม จะมีกำไรปกติ 121 ล้านบาท (+449%YoY, +45% QoQ) เป็นไปตามที่เราและ BB consensus คาด หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัว ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ -9.5% ทำให้ภาพรวม SSSG อยู่ที่ -9.3% ในปี 2023 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากราคาเหล็กที่ลดลงขณะที่ SSSG ผ่านหน้าร้านลดลงเพียง 1.5%YoY แนวโน้ม SSSG ช่วง YTD 2024 ยังคง -7%YoY และเราคาดว่า SSSG จะยังคงติดลบในช่วง 1H24 เนื่องจากงานก่อสร้างที่ชะลอตัว แต่คาดว่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกในช่วง 2H24 หลังการเบิกจ่ายงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานที่มากขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐานที่ 11.50 บาท

อัตรากำไรขั้นต้นกลับสู่ภาวะปกติทำให้งบ 4Q23 กลับมามีกำไร

  • ยอดขายใน 4Q23 ที่ 7.3 พันล้านบาท (-4%YoY, -1%QoQ) ผลจาก SSSG ที่ -9.5% (-4.5% ไม่รวมเหล็ก) ใน 4Q23 ติดลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับ 3Q23 ที่ -7.1% (-3.0% ไม่รวมเหล็ก) แม้จะมีฐานที่ต่ำในเดือนต.ค. 2022 จากุเหตุการณ์ผลกระทบอุทกภัยของสาขาอุบลราชธานี ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุด ด้วยพื้นที่ขายขนาด 45,266 ตร.ม. และมีสัดส่วนรายได้เฉลี่ยต่อปีราว 5 พันล้านบาท หรือ คิดเป็นประมาณ 15% ต่อยอดขายรวมของบริษัทแต่ด้วยการบริโภคที่อ่อนแอในภาคเกษตร ยอดขายจากกลุ่มลูกค้ารับเหมา ก่อสร้างที่ลดลง จากการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าของรัฐบาลจึงทำให้ SSSG ยังคงลดลง YoY
  • การขยายสาขาช่วง 4Q23 : เปิด Dohome สาขาใหญ่ 1 แห่งที่ปทุมธานี และเปิด Dohome To Go 2 สาขา ทำให้ ณ สิ้นปี 2023 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 35 สาขา แบ่งเป็น Dohome 24 สาขา และ Dohome To Go 11 สาขา
  • อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะขยายตัวเป็น 16.9% ใน 4Q23 จาก 13.7% ใน 4Q22 และ 15.5% ใน 3Q23 ผลจากอัตรากำไรของสินค้า House brands ที่เพิ่มขึ้น 200 bps สัดส่วนสินค้าเหล็กที่ลดลงราว 1-2% อัตรากำไรสินค้าเหล็กทรงตัวได้บริเวณ 10% รวมถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ดี และไม่มีการขายล้างสต็อกล็อตใหญ่
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 13.9% ใน 4Q23 จาก 13.2% ใน 4Q22 และ 13.1% ใน 3Q23 จากต้นทุนในการขยายสาขาใหม่

คาดกำไรปี 2024 ฟื้นตัวจากฐานต่ำ

  • คาดยอดขายสาขาเดิมยังคงติดลบในช่วง 1H24 การก่อสร้างที่ชะลอตัวลงและได้รับประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt ค่อนข้างจำกัด เนื่องจาก ลูกค้าส่วนใหญ่ได้ประโยชน์จากมาตรการค่อนข้างน้อย
  • เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากสินค้ากลุ่มก่อสร้างราว 50% ทำให้ SSSG ยังคงติดลบ 7% ในช่วง YTD 2024 แต่เราคาดว่าการเพิกจ่ายงบประมาณจะหนุนให้ SSSG กลับมาเป็นบวกใน 2H24
  • ปี 2023 ขยาย 3 สาขา ประกอบด้วย เชียงราย อยุธยา ใน 3Q23 และปทุมธานีใน 4Q23 รวมเป็น 24 สาขา (+14%YoY)
  • เราประมาณการกำไรปกติปี 2024 ที่ 975 ล้านบาท (+102%YoY) จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติที่ 1 7.0% ในปี 2024 จาก 15.7% ในปี 2023 จากผลกระทบของราคาเหล็กที่ลดลง

คงคำแนะนำ “ถือ” ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว รอการฟื้นตัว

มูลค่าพื้นฐาน 11.50 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.3% และ TG 3% เทียบเท่า 36xPE’24E เป็นพรีเมียม 40% จากค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย

- Advertisement -