ไร้ปัจจัยใหม่ๆ แต่คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones ปิดลบ 0.17% ขณะที่ Nasdaq ปรับลง 0.9% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการในเร็วๆนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.35% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกับอุปสงค์น้ำมันที่มีแนวโน้มอ่อนแอลงรวมถึงแรงขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันปรับขึ้นแข็งแกร่งในสัปดาห์ก่อน

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมา มิได้มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ มีเพียงทางการจีนประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าชั้นดี (Loan Prime Rate) อายุ 1 ปี และ 5 ปี สำหรับ 1 ปี เป็นไปตามที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ แต่ 5 ปีปรับลงมาที่ 3.95% ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 4.1% ด้านตลาดหุ้นจีนตอบรับเชิงบวกเล็กน้อย (+0.4%) สำหรับสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของแต่ละสินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัว ไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ราคาทองคำ และ Dollar Index สะท้อนถึงการที่ไร้ปัจจัยใหม่ๆ อย่างชัดเจน

สำหรับในประเทศวานนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 18 ก.พ. สะสมอยู่ที่ 5.2 ล้านราย (+49%YoY) และ 18 วันแรกของเดือน ก.พ. อยู่ที่ 2.18 ล้านราย โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 1.2 แสนรายต่อวัน แต่หากพิจารณา 1 ม.ค. – 18 ก.พ. เฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่ 1.06 แสนราย จึงคาดการณ์ว่า ปี 24 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยน่าจะอยู่ในช่วง 35 – 37 ล้าน กลับไปใกล้กับระดับก่อนเกิด COVID-19 (88% ของช่วงก่อนเกิด COVID-19) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่านักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นมากขึ้นในการเดินทางจากมาตรการยกเว้นวีซ่าและการปิดภาคเรียนของมาเลเซีย ในสัปดาห์ถัดไปทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประเมินว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเดินทางเข้ามาต่อเนื่องแต่จะปรับเข้าสู่ระดับปกติเพราะหมดช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงยังคงมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL CPALL MINT) ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q23 ข้อมูลล่าสุดหุ้นใน SET100 รายงานออกมาแล้วราว 42 บริษัท (50% Market Capitalization ของ SET Index) หุ้นที่มีกำไรสุทธิขยายตัว YoY ได้แก่ (AP BBL CBG DELTA GLOBAL JMT KBANK MINT MTC SCB) ปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ รายงานผลประชุม FED ในช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งลบกรอบ 1370 – 1380 รับแรงกดดันทั้งจากการปรับฐานลงตลาดหุ้นสหรัฐฯและญี่ปุ่นเช้านี้ (-0.3%) กลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยสะสมได้เช่นเดิมจากระดับ Valuation ที่น่าสนใจแนะนำกลุ่มหุ้นใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) สนามบิน (AOT) โรงแรม (CENTEL ERW MINT) อสังหาริมทรัพย์ (AP SPALI) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

ICHI (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท)

มองบวกต่อภาพรวมไตรมาส 4/23 ถึงปี 2024 หนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มชาพร้อมดื่ม และคาดการณ์ว่าอัตราการดำเนินงานจะเพิ่มเป็น 73% ในปี 2023 และ 75% ในปี 2024 จาก 60% ในปี 2022 กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 328 ล้านบาท (+71%YoY, +28%QoQ) สูงเป็นประวัติการณ์

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท)

คาดอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อเพิ่มเป็น 27.0% ใน 4Q23 จาก 26.5% ใน 4Q22 หนุนจาก 1) อัตรากำไรกลุ่มสินค้าอาหารที่แข็งแกร่งเป็น 26.7% ใน 4Q23 จาก 26.3% ใน 4Q22 ผลจากสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้าอาหารพร้อมทานที่เพิ่มขึ้น

- Advertisement -