Daily Focus: Earnings and Selective Play

2024 SET Target : 1520

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงค่อนข้างแรงทดสอบกรอบแนวรับ 1,378-1,380 จุด โดยปิดลบ 6.26 จุด ที่ระดับ 1,381.07 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นขึ้นเป็นกว่า 4 หมื่นลบ. กลุ่มที่ถ่วงตลาด คือ อิเล็กทรอนิกส์ สื่อสารฯ อาหาร บรรจุภัณฑ์ นำโดย DELTA INTUCH TU SCGP ส่วนกลุ่มที่พยุงดัชนี ได้แก่ ค้าปลีก ธนาคาร พลังงาน สถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 417 ลบ. ส่วนนักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิบางๆ 74 ลบ.หลังซื้อสุทธิ 2 วันก่อนหน้า (และพลิกมา Short Index Futures เกือบ 1.6 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways to Sideways Down ในกรอบ 1,372-1,386 จุด โดยมีปัจจัยกดดันอ่อนๆ จาก Sentiment ลบของตลาดต่างประเทศ ภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกหนุน โดยเฉพาะในประเทศที่ยังมีประเด็นกดดันคือแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดประเมิน โดย GDP คาดโตในระดับต่ำ 3% ในปี 2024 ขณะที่กำไร 4Q23 บจ.โดยรวมเท่าที่ประกาศออกมาแล้วต่ำกว่าที่คาด รวมถึงเห็นการทยอยปรับลดประมาณการกำไรปี 2024 ลงจากแนวโน้มการเติบโตที่ต่ำกว่าเดิมที่เคยมอง ซึ่งเราจะมีการปรับลดคาดการณ์ EPS และ SET Target ปี 2024 อีกครั้งหลังจบฤดูกาลประกาศกำไรช่วงสิ้นเดือนนี้ อย่างไรก็ตามในด้าน PER Multiple อาจมีปัจจัยช่วยบ้างจาก Bond Yield ของไทยที่ขยับลงในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาจากระดับ 3.3-3.4% สู่ระดับ 2.56% ช่วยชดเชยในด้าน Earnings Yield Gap ให้ไม่แคบลงจากเดิมมากนัก ระยะสั้นเรามองดัชนียังปรับตัวขึ้นได้จำกัดจากปัจจัยพื้นฐานที่กดดัน จึงยังเน้นกลยุทธ์เลือกลงทุนในหุ้นที่คาดมีแนวโน้มกำไรสดใสและแข็งแรงกว่ากว่าตลาดในปี 2024 ส่วนระยะยาวยังคาดหวังเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยที่ Bottom ในปี 2023 แล้วก่อนทยอยเร่งตัวขึ้นในปี 2024 โดยยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมถึงงบประมาณประจำปี 2024 ที่คาดว่าจะผ่านสภาฯได้ใน 2024 เรายังมองดัชนีที่ระดับ 1,350-1,360+/- จุด ยังน่าสนใจในการทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่โมเมนตัมกำไร 4Q23-2024 แข็งแกร่งและ PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid

หุ้นเด่นเดือน ก.พ.: CPALL, ITEL, MINT, PR9, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : CPALL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 77 บาท
  • กำไรของ CPALL มีแนวโน้มออกมาดีกว่าคาดที่ 4.7 พันลบ. +11% q-q, +63% y-y ตาม CPAXT ที่ออกมาก่อนหน้า หนุนจากยอดขายที่เติบโตของทั้ง 3 ธุรกิจทั้ง CVS Wholesale และ Retail ที่มี SSSG เป็นบวก ส่วนค่าใช้จ่ายยังควบคุมได้ดี รวมถึงได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยของ CPAXT ที่ลดลง หลัง Refinance
  • เราคาดกำไรปี 2023-24 ที่ 1.72 หมื่นลบ. +30% y-y และ 2 หมื่นลบ. +16% y-y จากผลการดำเนินงาน Lotus’s ที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด 2024PER เพียง 25 เท่า ต่ำกว่าในอดีตที่ราว 30 เท่า
  • แนวรับ 56//54 บาท แนวต้าน 56.75//58 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนในภูมิภาคเร่งตัวขึ้น สุทธิแล้วไหลเข้า US$349 นำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$143 ล้าน และ US$101 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินยังคงไหลเข้าสูงสุดที่อินโดนีเซีย US$90 ล้าน ส่วนฟิลิปปินส์และเวียดนามไหลเข้าบางๆ มีเพียงไทยที่ไหลออกอ่อนๆ แนวโน้มของกระแสคาดว่าจะชะลอการไหลเข้าหรือพลิกมาไหลออกบ้างหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงโดยเฉพาะแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ส่วนคืนนี้มีรายงานการประชุม FED ให้รอติดตาม

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) FSSIA Portfolio Update เราถอด TU ออกและ เพิ่ม NSL เข้า ทำให้ Top Pick ของเราล่าสุด ได้แก่ AOT, BCH, CPALL, CPN, GPSC, MINT, NSL, SJWD, and TIDLOR

(-) TU แนวโน้ม 1Q24 แย่กว่าที่เคยคาดมาก จะอ่อนตัวลง q-q, Y-y จากราคาขายและราคาปลาที่ปรับลงและลูกค้า stock ไปมากในไตรมาสก่อน แต่ผู้บริหารมองจะฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q24 เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลของการขายอีกครั้ง ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2024 โตเพียง 3-4% เราปรับประมาณการกำไรลง 7-9% และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 17.30 บาท แต่ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) SNNP กำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 165 ลบ. +3% q-q, +8.6% y-y ทำนิวไฮได้ตามคาด โตทั้งในประเทศและส่งออกทำจุดสูงสุดใหม่ จบปี 2023 มีกำไรสุทธิ 636 ลบ. +23% y-y ระยะสั้นคาดกำไร 1Q24 จะลดลง q-q ตามฤดูกาล และเป็น low season ของเวียดนาม แต่คาดยังโต y-y ได้ คาดกำไร ปี 2024 +23% y-y และคงราคาเป้าหมาย 22 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) GFPT กำไรปกติ 403 ลบ. +27% q-q, -4% y-y ดีกว่าคาด 12% จากปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นสวนทางฤดูกาลจากออเดอร์บางส่วนที่เลื่อนส่งมอบจากไตรมาสก่อน ส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมแข็งแกร่งจบปี 2023 มีกำไรสุทธิ 1.38 พันลบ. -33% y-y และคาดจะกลับมาโตในปี 2024 ราว +8% y-y คงราคาเป้าหมาย 14.20 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) SPALI กำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 2 พันลบ. +69% q-q, -7% y-y ดีกว่าคาดเราและตลาดคาด 12% เนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลงมากกว่าคาด ขณะที่ยอดโอนเป็นไปตามคาด แต่ผิดหวังอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดกำไรสุทธิปี 2024 6.6 พันลบ +10% y-y คงราคาเป้าหมาย 24 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ” จ่ายปันผล 0.75 บาท/หุ้น yield 3.8% XD 7 พ.ค. นี้

(0) AP กำไร 4Q23 ที่ 1.3 พันลบ. -21% q-q, +16% y-y ตามคาด จบปี 2023 มีกำไรสุทธิ 6 พันลบ. +3% y-y เป็น New High ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ส่วนปี 2024 คาดทรงตัวระดับสูง 6.2 พันลบ. +2% y-y ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13.70 บาท จ่ายปันผล 0.70 บ./หุ้น Yield 6.4% XD 8 พ.ค.

(+) MTC กำไรสุทธิ 1.35 พันลบ. +5% q-q, +19% y-y ดีกว่าเราและตลาดคาด 8-10% จากการตั้งสำรองที่ลดลงมากกว่าคาด และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าคาด ด้านคุณภาพสินทรัพย์ควบคุ้มได้ดี NPL 4Q23 ลดลงเล็กน้อย จบปี 2023 มีกำไรสุทธิ 4.9 พันลบ. -4% y-y เราปรับลดประมาณการปี 2024-26 ลง 3-5% แต่ยังคงราคาเป้าหมาย 43 บาท แนะนำ “ถือ”

(+) DOHOME กำไรปกติ 4Q23 ที่ 131 ลบ. +44% q-q, +451% y-y ดีกว่าเราและตลาดคาด 4-7% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับขึ้นมากกว่าคาด เราเริ่มเห็นลูกค้ากลับมาซื้อสินค้า Home Improvement และคาดอัตรากำไรขั้นตันน่าจะดีต่อเนื่องใน 1Q24 และเราคาดหวังว่า SSSG น่าจะกลับมาเป็นบวกใน 2H24 คงประมาณการกำไรปี 2024 และราคาเป้าหมาย 12.30 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 64.19 จุด หรือ -0.17% ปิดที่ 38,563.80 จุด โดยถูกกดดันจากหุ้นอินวิเดียที่ดิ่งลงอย่างหนัก ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ อย่างไรก็ดีการพุ่งขึ้นของหุ้นวอลมาร์ทช่วยให้ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงลบ

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ หลังปรับตัวขึ้น 4 วันติดต่อกัน โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานและกลุ่มพลังงาน

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ สอดคล้องกับการปรับตัวลงของตลาดสหรัฐฯ

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าเล็กน้อย อยู่ที่บริเวณ 35.98 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.12%

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.28% ปิดที่ 77.04 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 77.09 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.06%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 15.70 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 2,039.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประเภท 5 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง ในขณะที่เช้านี้ปรับลงที่ระดับ 2,035.10 ดอลลาร์/ออนซ์หรือ -0.23%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 836.16/ -0.21%

- Advertisement -