รุกฆาตตลาดหุ้น – บล.ฟิลลิป: (ภาคเช้า) 22/02/67

ไปเลยลูกพี่ SET / 1,385-1,410

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

• คาด SET แกว่งตัวขึ้นต่อ: ทางฝ่ายให้น้ำหนักกับปัจจัยบวกมากกว่าลบที่ตลาดซึมซับในระดับหนึ่ง โดยมองปัจจัยบวกยังทยอยเข้ามาหนุน ได้แก่ 1) แรงเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิในหุ้นไทยวานนี้ 6.3 พันล้านบาท หลังขายสุทธิในวันก่อนหน้าโดยซื้อสุทธิมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ SET ยังมีมูลค่าซื้อขายรวมกว่า 6.5 หมื่นล้านบาท สร้างแรงหนุนหุ้นขนาดใหญ่ มองในวันนี้หุ้นกลุ่มธนาคาร หุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จะเป็นเป้าหมายการลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากมีปันผลที่น่าสนใจ และประกาศผลประกอบการออกมาในทิศทางที่ดี 2) จีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม โดยผ่านธนาคารจีน ซึ่งอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทที่อยู่ภายใต้ White List ในช่วงก่อนหน้ากว่า 1.236 แสนล้านหยวน โดยมีการเบิกจ่ายแล้วกว่า 2.94 หมื่นล้านหยวน พร้อมออกมาตรการควบคุม Quant fund ต่อเนื่อง สร้างความหวังให้ตลาดหุ้นจีนและป็นบวกต่อสินค้าโภคภัณฑ์ 3) บอร์ดอีวี อนุมัติมาตรการกระตุ้นการซื้อขาย และลงทุนในธุรกิจอีวี โดยผู้ซื้อรถอีวี สามารถนำรายจ่ายไปหักภาษีได้ขณะที่ผู้ลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ไฟฟ้าสามารถรับสิทธิ์สนับสนุนภายใต้ BOT หนุนหุ้นที่เกี๊ยวข้องปัจจัยกดดันตลาดอาจมาจากต่างประเทศหลั้ง Nvidia เผชิญแรงขาย sell on fact กดดัน Semiconductor Index แม้ประกาศรายได้ที่ 2.21 หมื่นล้านดอลลาร์ ดีกว่าตลาดคาดที่ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ มองจะสุร้างแรงกดดันให้หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สั้นๆ ฉุดรั้งการปรับขึ้นของ SET ด้านปัจจัยอื่นที่น่าสนใจ คือ รายงานการประชุมเฟดชี้นำทิศทางการคงอัตราดอกเบี้ยต่อตามตลาดคาด เบื้องตั้นมีการลดขนาดการทำ QT จากเดิมตั้งเป้าจะคงขนาดงบดุลที่ 9 ล้านล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในระยะสั้นจึงมองกระทบต่อตลาดจำกัด คืนนี้จับตาตัวเลข PMI สหรัฐฯคาดยืนเหนือ 50 ได้ต่อ สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐต่อ
• กลยุทธ์การลงทุน : 1) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, CENTEL, CPALL, CPAXT, GLOBAL, DOHOME, MINT, OR 2) เก็งงบ 4Q66: BGRIM, ROJNA STA, SISB 3) Dividend play: TTW, SAT, SPALI, SC 4) China Play: NER, STA, PTTEP, PTTG และ 5) EV: NEX, STANLY, EA

ปัจจัยบวก

• จันเปิดเผยว่าธนาคารจีนได้อนุมัติสินเชื่อเพื่อการพัฒนาจำนวน1.236 แสนล้านหยวน และมีการเบิกจ่ายแล้ว 2.94 หมื่นล้านหยวน ภายใต้กลไกไวท์ลิสต์ (white ist) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต
• บอร์ดอีวี เคาะมาตรการหนุน EV คือ สามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการซื้อรถโดยสารไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้ามาใช้งานโดยไม่กำหนดเพดานราคาขั้นสูง นอกจากนี้ผู้ลงทุนในบตเตอรี่สามารถขอรับสิทธิประโยชน์ และเงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศฯ ภายใต้บีโอไอ
• ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.67 อยู่ที่ระดับ 90.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 88.8 ในเดือนธ.ค.66 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของอุปสงคในช่วงเทศกาลตรุษจีน มาตรการ Easy E-receipt และ มาตรการฟรีวีซ่า

ปัจจัยลบ

• บลูมเบิร์กรายงานว่าธนาคารฮั่งเส็งหั่นการลงทุนภาคอสังหาฯ ในจีนไปกว่า 33% ในปี 66 เพื่อลดความเสี่ยงในภาคส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญวิกฤต
• ส.อ.ท. แสดงความเห็นส่วนตัว ต่อการตัดสินใจเดินหน้า “โครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต” ว่าต้องคำนึงถึงการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ มากกว่าผลประโยชน์ในการหาเสียงให้กับพรรคการเมือง กดดันการเดินหน้าในโครงการดิจิทัล
• ราคาโลหะอะลูมิเนียมในตลาดล่วงหน้าพุ่งขึ้นกว่า 2% หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐจะมีมาตรการควำบาตรอะลูมิเนียมรอบใหม่จากรัสเซีย ผลักดันต้นทุนหุ้นที่ใช้โลหะดังกล่าวในกระบวนการผลิต

PICKS OF THE DAY

STA BUY

• เป้าหมาย 20.00 / 20.50 แนวรับ 18.50 / 19.00
• ธุรกิจยางจะมาแรงปีนี้: ภาพตลาดยางปีนี้ด้านซัพพลายในไทยคาดว่าจะลดลงอยู่ที่ 4.6 ล้านตันในปีนี้ ส่วนฝั่งดีมานด์ผู้ผลิตล้อยางที่ใช้วัตถุดิบยางจากอินโดฯยังเข้ามาไทยเรื่อยๆ เนื่องจากซัพพลายลดลง และการปรับใช้ EUDR จะทำให้ยางในไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้น เนื่องจากไทยสนับสนุนกฏนี้มากกว่าประเทศอื่นๆ อาทิ เวียดนาม อินโดฯ จีน
• 1Q67 หวังพลิกมากำไร: ปัจจุบันลูกค้า conventional ของ STA เริ่มส่งออกไปตลาด US และ middle east ดีขึ้น คาดราคาขายเฉลี่ย 1Q67 ที่ 150 cen/kg. ปรับตัวดีขึ้น จะทำให้มี GPM ฟื้นตัวขึ้น คาดหวัง 1Q67 กลับมามีกำไร

TTW BUY

• เป้าหมาย 10.00 / 10.30 แนวรับ 9.50
• คาด 4Q66 กำไรจะดีกว่าคาด: ธุรกิจน้ำ ประปาคาดว่าจะโตไม่มากที่ 3% แต่ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ดีกว่าที่คาดไว้ หลัง ประกาศงบ 4Q66 ดีกว่าตลาด 17% ทำให้การรับรู้กำไรจาก CKP มากกว่าที่คาดไว้ จากเดิมที่คาดกำไร 4Q66 ของ TTW จาก +20% เป็น +24% y-y และคาดหลังประกาศงบจะมีการจ่ายปันผล 0.30 บาท สำหรับ 2H66
• น้ำประปามีแนวโน้มดีขึ้น: ปริมาณขายมีแนวโน้มดีขึ้น โดย PTW ปริมาณขายดีขึ้นจากการซื้อน้ำของ กปภ. หลังมีการต่อสัญญาใหม๋ ซึ่ง ม.ค. PTW มีปริมาณขาย +9% แม้พื้นที่ของ TTW ปริมาณขาย ม.ค. จะยัง -1% แต่มีแนวโน้มฟื้นตัว จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากปีก่อน และการนำเข้า-ส่งออกที่กลับมาเป็นบวก จากปีก่อนติดลบ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอาหารทะเลส่ง ออก และในปี 2567 ยังจ่ายปันผลที่ 0.60 บาท ให้ yield เกิน 6%

- Advertisement -