บล.กรุงศรีฯ:
THAI UNION GROUP (TU TB/TU.BK)
TU – ถูกฉุดจากการด้อยค่าของ Red Lobster (TP Bt20.0, BUY)
กลุ่มอุตสาหกรรม | เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร |
หุ้น | TU |
มูลค่าพื้นฐาน | 20.00 |
คำแนะนำ | BUY |
- 4Q23 Earnings
กำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q23 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ลดลง 1% qoq แต่เพิ่มขึ้น 4% yoy
กำไรจากธุรกิจหลักของ TU ใน 4Q23 อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตาม Bloomberg consensus แต่เมื่อรวมผลขาดทุนจากการด้อยค่าของ Red Lobster 1.85 หมื่นล้านบาท ผลขาดทุนสุทธิจะอยู่ที่ 1.69 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 5% qoq เป็น 3.55 หมื่นล้านบาท จากการที่ลูกค้ายังคงเดินหน้าปรับสถานะจากการลดสต็อกหลัง COVID มาอยู่ระดับปกติ ถึงแม้ว่าราคาวัตถุดิบปลาทูน่าจะลดลง 19% qoq (เฉลี่ยอยู่ที่ USD1,450/ton) แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังลดลง 0.6ppt เหลือ 17.8% เพราะอานิสงส์จากต้นทุนที่ลดลงยังไม่เกิดขึ้นทันที เนื่องจาก TU ยังใช้สต็อกเก่าที่ต้นทุนสูงอยู่ใน 4Q23 นอกจากนี้ สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายยังลดลง 0.2ppt qoq เหลือ 11.7% เนื่องจากยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
- Analysis
ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจาก Red Lobster อีก
ใน 4Q23 TU รับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก Red Lobster 552 ล้านบาท (+26% qoq เพราะต้นทุนพนักงานสูงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย) ทั้งนี้ หลังจากที่ write-off ไป 1.85 หมื่นล้านบาทไปใน 4Q23 เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ TU ในปี 2024F จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 45% yoy เป็น 6.5 พันล้านบาท เพราะ TU จะไม่ต้องบันทึกผลขาดทุน Red Lobster ประมาณ 1,200 ล้านบาทอีกต่อไปในปี 2024 สำหรับผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลัก เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 5.2% ในปี 2024F (เป็น 1.432 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตในระดับปกติ และอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น 0.5ppt เป็น 17.6% เนื่องจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่าอาจจะลดลงอีกประมาณ USD100/ton yoy เฉลี่ยอยู่ที่ USD1,563/ton
- Implication/ Recommendation
คงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 20 บาท
ราคาหุ้น TU คิดเป็น P/E ปี 2024F ที่ 11.5x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12.7x เรามองว่าความเสี่ยงหลักอยู่ที่ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ