PLUS โชว์กำไร Q4/66 โตแกร่งพุ่ง 88% อยู่ที่ 57 ลบ. หนุนทั้งปีทำได้ 188 ลบ. ชงจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 0.12 บาท/หุ้น กางแผนปี 67 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 40-50%

“บมจ.โรแยล พลัส” หรือ PLUS ประกาศงบไตรมาส 4/66 กำไรสุทธิอยู่ที่ 57 ลบ. โต 88% รายได้รวม 350 ลบ. โต 45% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนผลงานปี 66 กำไรสุทธิอยู่ที่ 188 ลบ. โกยรายได้รวม 1,437 ลบ. ชงจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 0.12 บาท/หุ้น ขึ้น XD 12 มี.ค. 67 จ่ายปันผลวันที่ 17 พ.ค. 67 ด้าน “พลแสง แซ่เบ๊” แม่ทัพใหญ่ เปิดแผนปี 67 ผลงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 40-50% โดยไลน์การผลิตใหม่ PET Aseptic สามารถเดินเครื่องผลิตและส่งออก พร้อมสร้างยอดขายแล้วในไตรมาส 1/67 นี้ ชูเครื่องดื่มน้ำมะพร้าว 100% “COCO ROYAL” และน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว “MABU COCO” ขวด PET โปรดักส์แชมเปี้ยนติด TOP 3 พร้อมขยาย Distributor และทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น

นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUSเปิดเผยว่าผลประกอบการในงวดไตรมาส 4/2566 บริษัทฯ มีกําไรสุทธิอยู่ที่ 57 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกําไรสุทธิ 16% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 88% จากปีก่อน มีรายได้รวม 350 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 242 ล้านบาท เนื่องมาจากยอดการขายสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ

“ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/66 แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม แต่บริษัทฯ สามารถทำผลงานนิวไฮ ซึ่งเป็นระดับกำไร Q4 ที่สูงที่สุด ด้วยรายได้รวมอยู่ที่ 350 ล้านบาท เติบโต 45% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากยอดขายในต่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าเดิมที่มีอยู่ และลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเพิ่ม ตลอดจนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่งผลให้รายได้รวมในปี 2566 อยู่ที่ 1,437 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 188 ล้านบาท” นายพลแสง กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ให้การสนับสนุนบริษัทด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 80.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42.75% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 12 มีนาคม 2567 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567

สำหรับกลยุทธ์การเติบโตและแผนธุรกิจของบริษัทในปี 2567 จะมาจากการขยายช่องทางการขาย ควบคู่ไปกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และไลน์การผลิตใหม่อย่าง PET Aseptic ที่ปัจจุบันสามารถเริ่มผลิตและส่งออก พร้อมสร้างยอดขายแล้วในไตรมาส 1/67 ซึ่งเครื่องจักร PET Aseptic มีความสามารถในการผลิตสูงระดับ 48,000 ขวดต่อชั่วโมง เสริมกำลังการผลิตเริ่มต้นได้ 150 ล้านขวดต่อปี ซึ่งสามารถรองรับดีมานด์ของลูกค้าได้มาก จะทำให้ PLUS สามารถดันรายได้นิวไฮเติบโตได้มากกว่า 40-50% ในปี 2567 นี้

บริษัทได้ตั้งเป้าหมายในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อปีไม่น้อยกว่า 20 SKUs โดยในปี 2567บริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะไลน์การผลิตใหม่ด้วยบรรจุภัณฑ์แบบ PETอาทิ น้ำมะพร้าว 100% (Coconut Water 100%) แบรนด์ “COCO ROYAL” ด้วยคอนเซปต์ Fresh from tree to bottle   เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว (Fruit juice with Nata De Coco) แบรนด์ “MABU COCO”  อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลังเล็งออกกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม สร้างรายได้เข้าพอร์ตหลายช่องทาง

โดยกลยุทธ์การทำการตลาดในปีนี้ PLUS จะเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness)  โดยตลาดในประเทศ บริษัทมีแผนเรื่องการทำการตลาดออนไลน์ และการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ รวมทั้งเน้นการกระจายสินค้าเข้า โมเดิร์นเทรดทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าตาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้บริโภค ส่วนตลาดต่างประเทศ จะมีการออกบูธตามบิ๊กอีเว้นท์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ อาทิ งาน THAIFEX Anuga Asia ที่จัดขึ้นช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี , งาน Anuga ที่จัดขึ้นในประเทศเยอรมนี  งาน SIAL ที่จัดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสและประเทศจีน และงาน Gulfood ที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นต้น

“ในปีนี้จะเพิ่มกลยุทธ์ในการตลาดและการขายด้วยการเน้น Own Brand ของ PLUS มากขึ้น โดยเข้าถึงลูกค้าผ่านการไปออกบูธงานแฟร์ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ และเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ตลอดจนสร้างยอดขายให้แข็งแกร่งต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรามีทีมขายที่ทำงานเชิงรุก และครอบคลุมทั้ง 7 ภูมิภาค มีการศึกษาและคำนึงถึงความแตกต่างของลูกค้า เพื่อออกผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด  ตลอดจนให้ความสำคัญในการพัฒนาและอัปเดต Certificate เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานสากล” นายพลแสง กล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์ขวด PET  ของบริษัทมี 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ 1. น้ำมะพร้าว 100% แบรนด์ “COCO ROYAL” หลัก ๆ จะเติบโตจากตลาดจีนอย่างมีนัยยะในปีนี้  และ 2. เครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว แบรนด์ “MABU COCO” เติบโตได้ดีในกลุ่มตะวันออกกลางและยุโรป ที่มีความต้องการของผู้บริโภคที่สูง  โดยบริษัทมุ่งเน้นส่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภคด้วยการควบคุมคุณภาพจากโรงงานการผลิตของเราเอง โดยในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายจากไลน์การผลิตใหม่บรรจุภัณฑ์ขวด PET ด้วยสัดส่วนราว 21-24% ของยอดขายรวมทั้งหมดในปีนี้

ส่วนแผนการขยายสาขาที่ขายในห้าง Walmart สหรัฐอเมริกา ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่มจาก 3,000 สาขาในปัจจุบัน เป็น 4,000 สาขาภายในปี 2567 ขณะที่ความคืบหน้าของการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย (Distributor) ในอนาคต ซึ่งจากการทำการตลาดและการขายเชิงรุกในปีที่ผ่านมา บริษัทได้ ดิสทริบิวเตอร์​ รายใหม่มากกว่า 30 ราย  ในปี 2567 บริษัทมีแผนเพิ่มดิสทริบิวเตอร์ มากขึ้นด้วย

ขณะที่ภาพรวมกำลังซื้อในประเทศจีน ปี 2566 ที่ผ่านมา ยอดขายในประเทศจีนเติบโตไม่มาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ แต่ในปี 2567 เริ่มเห็นกำลังซื้อที่ดีขึ้น มั่นใจว่าในปีนี้ประเทศจีนจะเป็นประเทศที่มียอดขายและการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทที่เป็นเครื่องดื่มน้ำมะพร้าว 100%  (PET Aseptic) แบรนด์ “COCO ROYAL” ที่มีความต้องการจากลูกค้าที่สูงมาก เตรียมปล่อยออกสู่ตลาดภายในไตรมาส 1/2567 นี้ โดยจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่นี้อย่างยิ่งใหญ่ในงาน “China Food  & Drink Fair 2024 เดือนมีนาคม 2567 ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน

 ด้านกระแสตอบรับและกำลังซื้อของเครื่องดื่มน้ำผลไม้ มีกระแสตอบรับที่ดีต่อเนื่อง จากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น บวกกับความพร้อมด้านกำลังการผลิตที่ได้เปิดไลน์การผลิดตขวด PET สำหรับเครื่องดื่มกลุ่มนี้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปลายปี 2566 ที่ผ่านมา  โดยในปี 2567 คาดว่าเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวขวด PET “MABU COCO”  จะเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนติด TOP 3 โดยบริษัทพร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่าย (Distributor) และทำการตลาดเพิ่มขึ้น

- Advertisement -