วันนี้คาดตลาด “Sideway Up”

แนวรับ 1,365 / 1,360 แนวต้าน 1,375 / 1,380

เมื่อคืนนี้ถ้อยแถลงของคุณเจอโรม พาวเวล ตอกย้ำความหวัง ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในระยะถัดไป กดดัน 10 Years US-Bond Yield อ่อนตัวลง หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันดิบ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเรายังคงมุมมอง Downside จำกัดทำให้คาดสามารถฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง

Our View? “ฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,365 / 1,360 และแนวต้านที่บริเวณ 1,375 / 1,380 เมื่อคืนนี้ถ้อยแถลงของคุณเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ต่อสภาคองเกรส มีความคาดหวัง FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยระบุว่าเงินเฟ้อลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การรายงานตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนของสหรัฐเดือน ก.พ. โดย ADP ออกมาเพิ่มขึ้น 1.40 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาด พร้อมตัวเลขผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ม.ค. ออกมาลดลงสู่ระดับ 8.86 ล้านตำแหน่งปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้น โดยตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มลดความร้อนแรงลงแล้วกระตุ้นคาดการณ์ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงเดือน มิ.ย. ’67 หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ สอดคล้องกับทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield)โดยเฉพาะรุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่อเนื่องเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.11%+/- ทำจุดต่ำสุดใหม้ในภาพระยะสั้น ตามคาดการณ์ก่อนหน้าของเราที่คาดว่า หาก 10 Years US-Bond Yield ต่ำกว่าระดับ 4.20% จะส่งผลให้ตลาดกลับมาอยู่ในภาวะ Risk-on ได้

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน เม.ย. เมื่อคืนนี้ปิดที่ระดับ 79.13 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.98 ดอลลาร์ (+1.25%) ได้รับแรงหนุนจากการที่ FED ส่งสัญญาณในการปรับลด อัตราดอกเบี้ยลงเช่นกัน อีกทั้งเมื่อคืนนี้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่ตลาดคาดสะท้อนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐยังแข็งแกร่ง คาดจะหนุนทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้

สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามองยังไม่มีปัจจัยใหม่โดยมองประเด็นการขยายระยะเวลาซื้อขายในช่วงบ่ายของตลาดหุ้นไทยเร็วขึ้น 30 นาที โดยเริ่ม 14:00น. – 16:30 น. คาดจะไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index มากนัก อย่างไรก็ตามเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับวันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 เร็วขึ้นเป็นวันที่ 20-21 มี.ค. จากเดิม 3-4 เม.ย. โดยเรามองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป ซึ่งอาจส่งผลให้แนวโน้มในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-การออกโครงการใหม่ของภาครัฐออกมาได้ในระยะถัดไปคาดจะหนุนทิศทาง หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT และ CRC) และหุ้นในกลุ่มรับเหมา-ก่อสร้าง (CK, STEC, UNIQ และ SEAFCO) ปรับตัวขึ้นได้

ทั้งนี้เรายังมอง Downside ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างจำกัดลง โดยการปรับตัวลงตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาทำให้ปัจจุบัน SET Index ซื้อขายกันที่ Forward PE 14.2 เท่า +/- ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ย้อนหลัง 5 ปี -1 S.D. ทำให้ความน่าสนใจในเชิง Valuation เพิ่มขึ้นบ้าง ขณะที่การออกมาตรการต่างๆเพิ่มควบคุม Naked Short / Program Trade คาดจะลดความผันผวนของตลาดหุ้นไทยลงได้ อีกทั้งเราเริ่มเห็นปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นหลังการออกมาตรการดังกล่าว ทำให้เราคาดว่า Downside ของตลาดเริ่มจำกัดลงแล้ว

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CPAXT”

  • เราคาดผลประกอบการ 1Q’67 คาดจะฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่องจากโมเมนตัมเดือน ม.ค. – 11 ก.พ. 67 ยังเห็นการฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่อง YoY สะท้อนจาก SSSG ฝั่งค้าส่ง +3-4% YoY และโลตัสทั้งไทยและมาเลเซีย +5-6% YoY คาดจาก Easy-E receipt และเทศกาลตรุษจีน
  • ทางเทคนิค ราคาพยายามฟื้นตัวขึ้นหลังลงทดสอบแนวรับที่ EMA200 วัน ยกจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้น-กลางสูงขึ้นขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ยังอ่อนกำลังอยู่ ทำให้คาดว่าราคามีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างอิงทางบวกได้
  • แนะนำ “กยอยซื้อสะสม” แนวรับ 32.50 / 31.50 Target 36.00 / 43.50 Stop <30.00

- Advertisement -