ขึ้นได้ แต่อาจไม่ไกล / 1,380-1,395
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET ฟื้นตัว : ทางฝ่ายมอง SET เช้านี้จะ Sideways-Up ด้วยปัจจัยบวกที่สนับสนุน ได้แก่ 1) แรงเก็งกำไรในหุ้นก่อนขึ้น XD โดยสัปดาห์นี้ ได้แก่ BEM (12 มี.ค.67 XD: 0.14 บาท), BGRIM (13 มี.ค.67 XD: 0.18 บาท), BH (13 มี.ค.67 XD: 3.15 บาท) และ HANA (13 มี.ค.67 XD: 0.50 บาท) เป็นต้น 2) แรงเก็งกำไรหุ้นคาดงบงวด 1Q67 จะดีต่อแบบ Selective จากวิสัยทัศน์ผู้บริหารผ่านงาน Oppday ซึ่งในสัปดาห์นี้ ได้แก่ CPN, GULF, BA และ OSP เป็นต้น 3) นายกเตรียมแกลงผลงานครบรอบ 6 เดือนของรัฐบาล ทางฝ่ายคาดว่าแนวทางสื่อสารจะเป็นโทนบวก รวมทั้งจะมีการ Update แผนงานชักชวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาคท่องเที่ยว, จับจ่ายใช้สอย, โรงแรม รวมทั้ง update การส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มนิคมฯ และรับเหมาฯ 4) อากาศที่เข้าสู่ฤดูร้อน มองเป็น High Season ของกลุ่มเครื่องดื่มดับกระหาย เครื่องทำความเย็นและเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ปริมาณการใช้ไฟในภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มมากขึ้น ทำให้กลุ่มโรงไฟฟ้าจะได้แรงหนุนนอกเหนือไปจาก กกพ. ที่เตรียมพิจารณาค่าไฟฟ้าอัตราใหม่ ส่วน Sentiment จากต่างประเทศ แม้ว่าดัชนีดาวโจนส์ทางหลักยังขึ้น สะท้อนตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังถูกมองบวกจากนักลงทุน อย่างไรก็ตาม 1) เมื่อคืนวันศุกร์ ตลาดหุ้นสหรัฐทั้งสามตลาดปิดลบ คาดส่งผ่าน sentiment เชิงลบต่อภูมิภาคเอเชียช่วงนี้ นอกจากนี้ 2) น้ำมัน WTI ลดลงสู่ 70 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ( -1.17%) จากความกังวลเศรษฐกิจจีน อาจกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน ขณะที่บริษัทน้ำมันและก๊าซใหญ่ของจีน (CNOOC) ค้นพบแหล่งน้ำมันสำรองในทะเลจีนใต้กว่า 100 ล้านตัน และเพิ่มเป้าการผลิตน้ำมันปีนี้ 8% อาจเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน และ 3) แรงขายหุ้นที่ถูกลดน้ำหนัก หรือตกชั้นจากการคำนวนดัชนี FTSE (Effective 15 มี.ค.)
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) Oppday + 1Q เติบโตต่อ: BA, BEM, CPN, OSP 2) เก็งหุ้นก่อน XD: BH, BGRIM, HANA 3) Summer: HMPRO, HTC, ICHI, MINT, TACC 3) ดอกเบี้ยขาลง: MTC, KTC, SAWAD 4) พิจารณาค่าไฟฟ้า: BGRIM, GPSC, GULF
ปัจจัยบวก
- CPCA รายงานยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีนเดือน ม.ค. – ก.พ. 67 ที่ 3.16 ล้านคัน (+16.3%y-y)
- บขส. คาดวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งมีวันหยุด 5 วัน ติดต่อกัน จะหนุนให้ผู้โดยสาร (รถบขส., รถร่วม และรถตู้) ช่วงวันที่ 9-11 เม.ย. เฉลี่ยวันละ 7 หมื่นราย (+10%y-y)
- จีนตั้งเป้างบกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ในการส่งเสริมภาคการผลิตและเทคโนโลยีในประเทศ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เพิ่มคาด นทท.ต่างชาติเข้าไทยปีนี้จาก 30.6 สู่ 36 ล้านคน จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว, การเปิดเส้นทางการบินเพิ่มขึ้น และ ม.ฟรีวีซ่ากับหลายประเทศ และฟรีวีซ่าถาวรกับจีน
- จีนเผย CPI เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้นสู่ +1%m-m, 0.7%y-y มากกว่าคาด +0.7%m-m,+0.3%y-y และฟื้นตัวจาก ม.ค. ที่ +0.3m-m,0.8%у-у
ปัจจัยลบ
- หลัง กกพ. มีมติรับทราบภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้ารอบ ก.ย. – ธ.ค. 66 และเห็นชอบการคำนวนประมาณค่า Ft สำหรับงวด พ.ค. – ส.ค. 67 จะทำการเปิด Hearing พิจารณาค่า Ft และแนวทางการจ่ายการจ่ายคืนภาระคงค้างทำให้มีโอกาสที่ค่าไฟจะเพิ่มขึ้น แต่จะไม่เกิน 5.44 บาทต่อหน่วย
- บริษัทที่ปรึกษาด้านแรงงาน Challenger, Gray & Christmas ในสหรัฐเผยว่าการเลิกจ้างเดือน ก.พ.67 รวม 8.46 หมื่นราย (+3%m-m,+9%y-y) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นำโดยกลุ่มเทคฯและการเงิน จากตลาดแรงงานของสหรัฐที่ชะลอตัว
- Goldman Sachs ถอนกิจการธุรกรรมการเงินในญี่ปุ่นหลังเปิดบริการไม่ถึง 1 ปี เพื่อมุ่งเน้นการกระจายความเสี่ยงธุรกิจไปยังกลุ่มเทรดดิ้งและวาณิชธนกิจในฝั่งยุโรปและสหรัฐ
- CNPC ของจีนระบุว่า การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ BEV จะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน และราคาน้ำมันในตลาดโลก และเป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน
PICKS OF THE DAY
ICHI BUY
- เป้าหมาย 19.00 / 19.70 แนวรับ 18.00
- ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง: หลังปี 2566 รายได้เติบโต 27% สู่ 8 พันล้านบาท ผู้บริหารเผยปี 2567 วางเป้าหมายรายได้ 9 พันล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับ 23% รับทิศทางตลาดชาพร้อมดื่มที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รุกตลาด Non-Tea นอกจากนี้ การติดตั้งไลน์การผลิตใหม่ มีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 200 ล้านขวด/ปี คาดจะเดินเครื่องได้ 4Q67 จะหนุนกำลังการผลิตรวมเป็น 1,700 ล้านขวด/ปี และเป็นแรงผลักดันสู่เป้าหมายยอดขาย 1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2568
- แรงหนุนในระยะสั้น: จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด คาดช่วยหนุนยอดขายสินค้าเครื่องดื่ม ขณะที่ด้านต้นทุนได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำตาลที่ลดลง 2 เดือนติดต่อ กัน (เดือนม.ค.-ก.พ. 67) นอกจากนี้ ยังเป็นหุ้นที่ Valuation น่าสนใจสะท้อนจาก P/Eที่ 19.55x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 21.68x
MTC BUY
- เป้าหมาย 48.50 / 50.00 แนวรับ 45.50
- คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น: MTC มี NPL ลดลงต่อเนื่อง 2 ไตรมาสติดต่อกัน และทำให้การตั้งสำรองใน 2H66 ลดลงจาก 1H66 และในปี 67 คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะยังดีต่อเนื่อง และทำให้ระดับการตั้งสำรองลดลงได้อีก ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการ
- คาดหวังสินเชื่อกลับมาโตเด่นได้อีกครั้ง: ในปี 66 MTC มีสินเชื่อเติบโต 18.1% y-y ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ระดับที่น้อย แต่ก็น้อยกว่า 2 ปีที่ผ่านมาที่มีสินเชื่อเติบโตถึง 29.4% y-y และ 31.6% y-y ส่วนหนึ่งเนื่องจากฐานสินเชื่อที่สูงขึ้นแล้ว ยังเป็นเพราะทาง MTC มีการชะลอการปล่อยสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่เอื้อ แต่ในปี 67 การเติบโตน่าจะกลับมาเร่งตัวขึ้นได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ