KS Daily View 15.03.2024 >>> Yield สหรัฐเด้ง ตลาดหุ้นปรับฐาน, สัปดาห์หน้าจับตาพ.ร.บ.งบประมาณไทย, ประเมินกรอบ SET 1,380 – 1,400 จุด, หุ้นแนะนำ GLOBAL, BAFS

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,380 – 1,400 จุด คืนก่อนดัชนีสหรัฐทั้งสามปรับฐาน หลังสหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.1%  ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ปรับตัวขึ้น 2.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.9% ทั้งนี้ ดัชนี PPI ที่ออกมาสูงเกินคาดทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ และยังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.2% ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นเช่นกัน ล่าสุด FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 62.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 81.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.นี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% สำหรับป้จจัยเฉพาะของตลาดไทย สัปดาห์หน้าจับตาพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณวาระ 2-3 วันที่ 20-21 มี.ค. ซึ่งถูกเร่งขึ้นมา 2 สัปดาห์ เป็นประโยชน์แก่กลุ่มรับเหมา, ค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ประจำเดือนก.พ. โดย ดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.1% จากระดับ 1.0% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.3% ในเดือนม.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.9% จากระดับ 2.0% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.5% ในเดือนม.ค.
  2. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 209,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 218,000 ราย
  3. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนม.ค. หรือเพิ่มขึ้น 0.0% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • GLOBAL  : ราคาพื้นฐาน 17.20 บาท

เราคาดว่า GLOBAL จะรายงานกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นที่ 13.8% YoY ในปี 2567 (เทียบกับที่ลดลง 23.4% YoY ในปี 2566) หนุนจาก SSSG ที่คาด +2% ดีขึ้นจาก SSSG ปีก่อนที่ -10.8% โดยกำไรปี 2567 จะได้รับแรงหนุนจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กอปรกับการเปิดสาขาใหม่ 7-8 แห่งในปี 2567 เทียบกับที่ 6 แห่งในปี 2566 เราคาดว่า GPM ในปี 2567-68 จะขยายตัวขึ้น 40 bps มาอยู่ที่ 25.9% และ 26.1% ตามลำดับ หนุนจาก GPM ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มเหล็กและยอดขายที่มากขึ้นจากสินค้า private label นอกจากนี้ แนวโน้มค่าไฟฟ้าที่ลดลงและการควบคุมระดับสินค้าคงคลังคาดจะช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเติบโตช้ากว่ายอดขาย

  • BAFS : ราคาพื้นฐาน 30.07 บาท

ผู้บริหารตั้งเป้าปริมาณการเติมเชื้อเพลิงอากาศยานในปี 2567 เพิ่มขึ้น 16% YoY ในขณะที่คาดว่าปริมาณการขนส่งน้ำมันทางท่อจะเพิ่มขึ้นประมาณ 7% YoY และผู้บริหารคาดว่าจะลงนามในสัญญากับ Thappline เพื่อเชื่อมท่อส่งน้ำมันระหว่างท่อสายเหนือกับ Thappline  ภายในไตรมาส 2/2567 เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BAFS ด้วยราคาเป้าหมายที่30.07 บาท

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ : ติดตามดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ (Empire State Manufacturing Index) สำหรับเดือน มี.ค. ตลาดคาดที่ 5 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -2.4 จุด และต่อด้วยติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น (Prelim University of Michigan Consumer Sentiment) สำหรับเดือน มี.ค. ตลาดคาดที่ 78 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 76.9 จุด
- Advertisement -