รอบด้านตลาดหุ้น: เตรียมเปิดธีมการลงทุนใหม่
ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook
แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัพเดต Momentum Tracker และแนวโน้มตลาดหุ้นโลกและไทย
“Highlight”
1 สัปดาห์ที่ผ่านมาหลายๆสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนเป็นบวก นำโดยตลาดหุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้น 1.8%, US 10Y Treasury +0.9%, ทองคำ +0.4% และน้ำมัน WTI +0.2%
2 สำหรับตลาดหุ้น DM ได้แก่ S&P500 และ NIKKE1225 ซึ่งเป็นกลุ่ม leader ใน ปีนี้ ยังปรับตัวขึ้นได้ดีมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา +2.2% และ 5.6% ตามลำดับ โดยตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงหนุนจาก Median Dot Plot ที่ชี้ว่าสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ยังคงมุมมองการลดดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง ในขณะที่หุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากการส่งสัญญาณของ BoJ เรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงทำให้ตลาดคลายความกังวลเรื่อง tighten policy
สำหรับเซคเตอร์ที่ปรับตัวขึ้นเด่นของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม Sensitive และ Cyclical เช่น Communications +3.3%, Consumer Discretionary +2.6%, Industrials +2.6%, Technology +2.1% และ Financials +1.5% ส่วนหุ้น Defensive แม้จะปรับตัวขึ้นได้ แต่ relative performance ถือว่าน้อยกว่ามาก จึงเป็นการสะท้อนว่าอารมณ์ตลาดยังอยู่ในโหมด risk-on sentiment เนื่องจากแรงซื้อ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม high beta และหุ้นวัฏจักร
“สำหรับปัจจัยเศษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่”
- วันจันทร์: (1) Thailand’s Exports เดือน ก.พ. (consensus คาดขยายตัว 4.7% YoY) และ (2) US New Home Sales เดือน ก.พ. (consensus คาดเพิ่มขึ้น 2.9% MoM)
- วันอังคาร: US Durable Goods Orders เดือน ก.พ. (consensus คาดขยายตัว 1% MoM)
- วันศุกร์: (1) Thailand’s Industrial Production เดือน ก.พ. (consensus คาดลดลง 3.9% YoY) และ (2) US Core PCE เดือน ก.พ. (consensus คาดชะลอตัวลงจาก 0.4% MoM เป็น 0.3% MoM)
“แนวโน้มของราคาสินทรัพย์ต่างๆ ในสัปดาห์นี้”
1 เราคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นอาจเคลื่อนไหวผันผวนขึ้นจากภาวะ overbought แต่ทั้งดัชนี S&P500 และ NIKKEI225 ยังมีโอกาสทำ higher high ได้ ซึ่งเราคาดว่า S&P500 จะขึ้นทดสอบ 5300-5500 จุด ภายใน 2Q24 ส่วน NIKKE1225 มีโอกาสขึ้นทดสอบ 42000-43000 จุด โดยเราวางแผนที่จะลดน้ำหนักการลงทุนเมื่อดัชนีทั้งสองเข้าสู่โซนดังกล่าว และจะปรับพอร์ต BLS Top Funds Allocation ให้มีความ defensive ขึ้นจากความแพงของตลาดและความเสี่ยงที่มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเราจะอัพเดตมุมมองให้ทราบอีกครั้งในอนาคต แต่ระหว่างนี้นักลงทุนยังสามารถ enjoy ไปกับภาพ global risk-on sentiment ไปก่อนได้
2 ตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสขึ้นทดสอบ 1300 จุดในระยะอันใกล้ หนุนจาก Momentum Tracker ที่ยังเป็น uptrend และไม่ได้ตึงตัวเท่าตลาด DM
3 ตลาดหุ้นจีนและไทยให้ผลตอบแทนไม่ดีนักในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปิดลบบางๆทั้งสองตลาด (Shanghai Composite -0.2% และ SET -0.3% WoW) อย่างไรก็ตาม ดัชนีทั้งสองยังมีโอกาสซิกแซกขึ้นใหม่ หลังผ่านการ pullback ระยะสั้นนี้ไปแล้ว หนุนจาก global sentiment ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี
4 US 10Y Treasury มีแรงซื้อกลับภายหลังการประชุมเฟตในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์นี้ราคายังมีโอกาสชิกแซกขึ้นต่อ (ราคาขึ้น = yield ปรับตัวลง) โดยแม้ว่าปลายสัปดาห์นี้จะมีรายงานเงินเฟ้อ PCE สหรัฐ แต่เราไม่คิดว่าตัวเลขจะออกมาแตกต่างคาดการณ์ของ consensus อย่างมีนัยสำคัญ จึงทำให้น่าจะแรงทยอยซื้อคืนในตลาดพันธบัตร
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในระยะสั้นน่าจะยังอยู่ในวงจรการสร้างฐานในกรอบ 2,125-2,175 เหรียญ จากภาวะ technical overbought อย่างไรก็ตามหลังการพักตัวเสร็จ ราคามีโอกาสที่ปรับตัวขึ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 2,300 เหรียญในไตรมาส 2
สรุปภาพตลาดวานนี้
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีย่อตัวลง จากแรงขาย CPAXR CPALL SCC PTTEP ต่อ และทำกำไรหุ้นใหญ่อย่าง BKGI และหุ้นเหวี่ยงแบบ JTS ขณะที่ KTB บวกแรงจากสารฯ ออกมาว่าตั้งสำรองเคส ITD แล้ว และ BBL SCB KBANK ก็บวกเบาๆ มาด้วย ส่วนฝั่งหุ้น Alpha บวกเดินกว่าตลาด มีน้อยลง เช่น DEMCO FORTH แต่จะไปเห็นการขายทำกำไรมากกว่าอย่าง NAT BVG MASTER MGI CCET เป็นต้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
เตรียมเปิดธีมการลงทุนใหม่
สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทย สร้างรูปแบบการฟื้นตัวจากโซนแนวรับที่ยกสูงขึ้นตามที่เราคาด แม้จะมีหลุด Error ไปบ้างจากโซนรับที่เราวางไว้ 1,378 จุด แต่ถ้อยแถลงเฟด ในการประชุมที่กล่าวถึง โอกาสจะลดนโยบายการเงินเข้มงวด (QT) ที่มาเร็วกว่าคาดการณ์เดิม (จากตลาดคาดเริ่ม ก.ค. เป็น มิ.ย.) หนุนบรรยากาศลงทุนหุ้นโลก และ สินทรัพย์ทางเลือก
จากโมเมนตั้มหุ้นไทยที่เริ่มดีขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากแรง “ซื้อคืน” ที่พร้อมจะหนุนราคาหุ้นรายตัวให้บวกแรง เช่น สัปดาห์ที่แล้วได้แรงซื้อหุ้น อิเล็กทรอนิกส์ สินเชื่อบุคคลจาก แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง (Rate sensitive)
สะท้อนราคาหุ้นรายตัวในสัปดาห์นี้ จะยังคงบวกเด่น ตามกระแสการลงทุนหลักตลอดทั้งปลายเดือนนี้ต่อเนื่อง เมย. คือ
1 แรงซื้อคืน (covered short) หุ้นที่ลงแรงหรือตามปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปในเชิงบวก เช่น การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในประเทศจะมาเร็วขึ้นกว่าที่คาด, การพลิกฟื้นของเศรษฐกิจฐานราก ตามทิศทางราคาสินค้าเกษตร และมาตรการอุดหนุนจากภาครัฐ
2 หุ้นตามกระแสการปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไร จากสถานการณ์พิเศษ หรือปัจจัยฤดูกาล เช่น วันหยุดยาวฤดูร้อน เทศกาลสงกรานต์ หนุนการบริโภค และ กลุ่มเครื่องดื่ม, เตรียมทัพโปรโมชั่น อาหารและเครื่องดื่มรับ ฟุตบอลยูโร 24 (มิ.ย.-ก.ค.) และ โอลิมปิค 24 (ก.ค.-ส.ค.), กระแสเศรษฐกิจโลกใหม่ AI, ไบโอเทคโนโลยี, หุ้นเติบโตสูง เป็นต้น
3 ปัจจัยมหภาคหนุนความเชื่อมั่น เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จีน (มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลกลาง) ญี่ปุ่น (การขึ้นค่าแรง, เศรษฐกิจฟื้นตัวในรอบหลายสิบปี)
สำหรับกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้คาด ยกฐานใหม่สูงขึ้นต่อเนื่อง แต่จะยังไม่ทะลุผ่านแนวต้าน กรอบ 1,375-1,400 จุด ดังนั้นกลุ่มหุ้นเด่นคาดว่าจะหมุนลงมาเล่นหุ้นกลางเล็ก, หุ้นเติบโตสูง มากกว่าหุ้นบูลชิพใหญ่
กลยุทธ์การลงทุน
เลือกเล่นหุ้นตามธีมลงทุน Earnings play / หุ้นปันผล / รีมการลงทุนจากปัจจัยหนุนการปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไร
วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ลุ้นไม่ขึ้น! ท้ายสุดย่อกลับลงมาที่เดิม…ไม่สามารถทะลุผ่านโซนต้านสำคัญ 1,390 จุดได้ ขณะที่โครงสร้างระยะกลางเคลื่อนที่อยู่ในกรอบ consolidate zone อยู่ในกรอบ sideway แบบนี้มานานกว่า 5 เดือน โมเมนตัม MACD week cross ตัดเส้นขึ้น แต่ยังขาดพลัง เทรดต่ำกว่าเส้น 0 ส่งผลให้แนวโน้มสัปดาห์นี้ คาดว่าจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบเหมือนเดิม
Note: เรายังมีบทวิเคราะห์ “World Asset Class” หัวข้อ “นิเคอิ… ไปต่อหรือพอแค่นี้” & บาทจะอ่อนค่า… ถึงไหน”
What to watch
- เงินเฟ้อสหรัฐฯ PCE สัปดาห์นี้: ซึ่งจะมีผลต่อ คาดการณ์นโยบายการเงิน และการเดินหน้านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น (ลด QT)
- คลังชง ครม. 5 โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำต้นเดือน เม.ย.นี้ เล็งสั่งแบงก์รัฐลดดอกเบี้ยบี้ธนาคารพาณิชย์ ส่วนเงินดิจิตอลเตรียมส่ง สศค.ไม่เกิน 29 มี.ค.นี้
- เฟดสาขา แอตแลนตา ช็อตฟีลตลาด ให้สัมภาษณ์คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยแค่ครั้งเดียวในปีนี้
- พรบ.งบประมาณปี 67 ผ่านสภานิติฯ ฉลุย เตรียมส่งต่อวุฒิสภาซักถามก่อนลงมติ
หุ้นแนนำวันนี้
GFPT
- ส่งออกไก่โตตามเศรษฐกิจญี่ปุ่น ธีมบริโภคไก่ช่วงเวลาเชียร์กีฬาที่กำลังจะมาถึง
- (S 12 R 13 SL 11.5)
GLOBAL
- เก็งกำไรตามทิศทางราคาสินค้าเกษตรฟื้นตัว และราคาเหล็กขยับขึ้น
- (S 16.5 R 17.7 SL 16)
อ่านฉบับเต็มได้ที่