บล.ฟินันเซีย ไซรัส

MEGA LIFESCIENCES (MEGA TB)

ตั้งเป้าเพิ่มกำไรปี 2019 เป็น 2 เท่าภายในปี 2025

  • ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มกำไรสุทธิปี 2019 เป็น 2 เท่าภายในปี 2025 โดยวางแผนเพิ่มรายได้ในอัตราหนึ่งหลักกลางในปี 2024
  • รงงานในอินโดนีเซียน่าจะให้ส่วนแบ่งที่มีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
  • คงคำแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 56 บาท

อุตสาหกรรมโตช้าลงในปี 2023 หลังประโยชน์จากโควิดหมดไป

บริษัทยาที่รายงานรายได้และกำไรโตแบบก้าวกระโดดจากโรคระบาดในปี 2020-22 ประสบปัญหารายได้โตลดลงอย่างรุนแรงในปี 2023 ในที่สุดโดยรายได้รวมของบริษัทยาจดทะเบียน 4 แห่งโต 14-15% ในปี 2020-22 ก่อนลดลงเหลือ 3% ในปี 2023 ในขณะที่กำไรปกติรวมของบริษัททั้งหมดดังกล่าวพุ่ง 39% และ 19% ในปี 2021-22 ตามลำดับแต่ลดลง 2% ในปี 2023 ในปีดังกล่าวประมาณ 20% ของผลิตภัณฑ์รวมของ MEGA มีความเกี่ยวข้องกับโควิดซึ่งรายงานรายได้ลดลงเกือบ 30% ด้วยเหตุดังกล่าว MEGA จึงรายงานรายได้ทรงตัวในปี 2023

ตั้งเป้าเพิ่มกำไรสุทธิปี 2019 เป็น 2 เท่าภายในปี 2025

ผู้บริหารของ MEGA ตั้งเป้าเพิ่มกำไรสุทธิปี 2019 เป็น 2 เท่าภายในปี 2025 หลังบรรลุเป้าในการเพิ่มกำไรสุทธิปี 2014 เป็น 2 เท่าภายในปี 2019 ในปี 2024 ผู้บริหารวางแผนเพิ่มรายได้ใน อัตราหนึ่งหลักกลาง บริษัทฯ มีสินค้า 43 ชนิด ประกอบด้วยสินค้าอุปโภคบริโภค 14 ชนิดและยา 29 ชนิดที่พร้อมเปิดตัวในปี 2024 และอีกมากกว่า 50 ชนิดที่กำลังพัฒนา

อินโดนีเซียน่าจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตสำคัญในระยะกลางถึงยาว

โรงงานในอินโดนีเซียที่ MEGA ซื้อมาเมื่อ 4 ปีที่แล้วเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดในประเทศเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทฯ วางแผนลงทุน 250 ลบ. ในโรงงานในอินโดนีเซียเพื่อปรับปรุงการผลิตยาให้ได้โดสใหม่ คลังเก็บสินค้าและโรงงานในช่วงปี 2024-25 อินโดนีเซียน่าจะเป็น ปัจจัยหนุนการเติบโตสำคัญของ MEGA ในระยะกลางถึงยาวเนื่องจากตลาดยาของอินโดนีเซีย มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้บริหารคาดว่าโรงงานในอินโดนีเซียจะเริ่มให้ส่วนแบ่งที่มีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป นอกจากนี้ MEGA ยังมองหาโอกาสในเวียดนามโดย น่าจะมีความคืบหน้าภายใน 2Q24

คงคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 56 บาท

ประมาณการตัวเลขการเติบโตของกำไรของเราที่ 5%/6%/5% ในปี 2024-26 สอดคล้องกับเป้าประมาณการของผู้บริหารที่อยู่ในอัตราหนึ่งหลักกลาง แม้ว่าจะประสบปัญหาเติบโตต่ำ MEGA เป็นแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรม Health and Weliness โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศกำลังพัฒนาที่มีคสวามต้องการแต่เข้าถึงยาหรืออาหารเสริมได้จำกัด เราคงคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 56 บาท (DCF, 8.2% WACC, 3.5% LTG) คิดเป็น 20x ของค่า 2024E P/E เท่ากับ ค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง

- Advertisement -