Daily Focus 2024: Selective Play // Hold after Accumulated

SET Target : 1470

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways โดยฟื้นตัวได้เล็กน้อย ดัชนีปิดบวก 4.74 จุด ที่ระดับ 1,377.23 จุด มูลค่าการซื้อขายทรงตัวราว 4.1 หมื่นลบ. กลุ่มที่หนุนตลาด ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ อสังหาฯ ไฟแนนซ์ ค้าปลีก ธนาคาร เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ถ่วง คือ ปิโตรเคมี ท่องเที่ยว ขนส่ง สถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 850 ลบ. ขณะที่นักลงทุน ต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 1.4 พันลบ. (และพลิกมา Long Index Futures 1.3 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,370-1,385 จุด โดยบรรยากาศการลงทุนยังขาดปัจจัยหนุนใหม่หลังตอบรับเชิงบวกต่อผลการประชุม FED สัปดาห์ก่อนไปแล้ว ขณะที่ภาพรวมตลาดคาดอยู่ในโหมด Wait and See เนื่องจากเข้าใกล้วันหยุด Good Friday และรอดูตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯเดือน ก.พ. คืนวันศุกร์ซึ่งตลาดยังมองว่าจะยังอยู่ในทรงสูง (คาด Core PCE +0.3% m-m, +2.8% y-y) ส่วนปัจจัยในประเทศตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ. ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย +3.6% y-y ขณะที่งบประมาณประจำปี 2567 เห็นชอบในชั้นวุฒิสภาแล้ววานนี้ เตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯสัปดาห์หน้า เราเชื่อว่าจะหนุนความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนและทำให้โมเมนตัมของการลงทุนภาครัฐให้เร่งตัวขึ้น หลังติดลบแรงในไตรมาสก่อนๆ หนุน GDP ทยอยเร่งตัวใน 2Q24 และโดยเฉพาะ 2H24 ระยะสั้นดัชนียังมีโอกาสย่อตัวลงทดสอบบริเวณ Low เดิม 1,350-1,360 จุด หากไม่รีบกลับไปยืนเหนือ 1,380 จุด อย่างไรก็ตาม ยังมองการย่อตัวเป็นโอกาสในการสะสมจากทิศทางกำไรบจ.และ GDP ที่จะทยอยฟื้นตัวตลอด ทั้งปีนี้

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่แนวโน้มกำไรปี 2024 แข็งแกร่งและเทรด PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid // ถือลงทุนหลังสะสมหุ้นเพิ่มบริเวณ 1,350 จุด

หุ้นเด่นเดือน มี.ค.: BDMS, HMPRO, KCG, SHR, TACC

FSSIA Portfolio: AOT, BCH, CALL, CPN, GPSC, MINT, NSL, SJWD, and TIDLOR

หุ้นเด่นวันนี้ : CPN

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 83 บาท
  • เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของ CPN ในช่วงปี 2024-26 จากธุรกิจศุนย์การค้าที่ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่แรงหนุนจะมาจากธุรกิจอสังหาฯที่จะเติบโตมากขึ้น บริษัทให้ guidance การเติบโตของธุรกิจ Residential ปี 2024 เติบโต 20% Y-y โดย CPN มีแผนเปิด 10 โครงการใหม่ในปี 2024
  • CPN มีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่งที่นครสวรรค์และนครปฐมใน 1Q24 และในปี 2025 มีแผนเปิดเพิ่มที่กระบี่และ Dusit Central Park คาดหนุนรายได้ค่าเช่าเติบโตต่อเนื่อง เราคาดกำไรปกติปี 2024-26 เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี ราคาหุ้นเทรด PE ต่ำเพียง 17.8 เท่าเทียบกับอดีตที่กว่า 20 เท่า
  • แนวรับ 62//61-60.50 บาท แนวต้าน 63.50-64//65-65.50 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลดเข้าภูมิภาคสุทธิบางๆ US$155 ล้าน ภาพรวมผสมผสานโดยไหลเข้าเกาหลีใต้ US$516 ล้าน แต่ไหลออกจากไต้หวันต่อเนื่องอีก US$280 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกประเทศละ US$7-32 ล้าน มีเพียงไทยที่ไหลเข้า US$39 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังผสมผสานโดยตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนและเริ่มเห็นการชะลอตัวระยะสั้นหลังจากปรับขึ้นแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้า ตลาดรอติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯคืนวันศุกร์

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) ส่งออกไทยเดือน ก.พ. ต่ำกว่าคาด แต่ภาพรวมไม่แย่ มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ US$2.34 หมื่นล้าน +3.6% y-y (ต่ำกว่าคาดที่ +4.4% y-y) มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ US$2.39 หมื่นล้าน +3.2% y-y (สูงกว่าคาดที่ +1.5% y-y) ส่งผลให้ดุลการค้าเดือน ก.พ. ขาดดุล US$554 ล้าน ดีขึ้นจากเดือน ม.ค. ที่ขาดดุล US$2.76 พันล้าน ภาพรวมสินค้าเกษตรและอาหารโตดี นำโดย ข้าว ยางพารา อาหารทะเลกระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมที่โตดี ได้แก่ คอมพิวเตอร์ เหล็ก อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ตลาดที่เติบโตดี คือ สหรัฐฯ CLMV ยุโรป ออกเตรเลีย ชดเชยตลาดจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ที่หดตัว ส่วนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นหลักๆ เป็นสินค้าทุน วัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจในระยะถัดไป ส่วนที่หดตัวคือเชื้อเพลิงและยานพาหนะ

(+) กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง ส่งออกเครื่องดื่มชูกำลังเดือน ก.พ. +3.4% m-m, +2.6% y-y นำโดย พม่า +28% m-m, +19% y-y ทำให้ 2MTD ส่งออกชูกำลังไปพม่า +25% y-y ดีกว่าส่งออกรวม +18% Y-Y เป็นบวกต่อ OSP (ราคาเป้าหมาย 24.50 บาท) และ CBG (ราคาเป้าหมาย 70 บาท) ทั้งนี้ปกติ 1Q เป็น High season ของการขายในพม่า เป็น Sentiment บวกในการเก็งกำไรระยะสั้น

(-) กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท. เผยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนก.พ. 2024 อยู่ที่ 52,843 คัน -3.6% m-m และ -26% y-y จากยอดขายรถกระบะลดลง -20.1% m-m, -43% y-y และรถยนต์นั่งลดลง จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อตามนโยบายการให้กู้แบบรับผิดชอบและหนี้ครัวเรือนสูง ขณะที่ส่งออกได้ 88,720 คัน +2.3% m-m, +0.22% Y-y ส่วนยอดผลิตเดือนก.พ. 2024 ที่ 133,690 คัน -19% Y-Y จากการผลิตเพื่อส่งออกผลิต 86,762 คัน -9% y-y อย่างไรก็ดี ส.อ.ท. ว่างเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 2024 ที่ 1.9 ล้านคัน +3.2% y-y ล่าสุดโตโยต้าปรับลดคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศเหลือ 7.3 แสนคัน จากเดิม 7.5 แสนคัน จากเศรษฐกิจที่ยังซบเซา เรายังให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มยานยนต์ที่ Underweight

(+) BEYOND คาดกำไรปกติ 1Q24 ทำสถิติสูงสุดที่ 35-40 ลบ. จาก RevPAR ที่คาดว่าจะเติบโต 20-25% y-y ขณะที่รายได้รวม +14% y-y เป็น 920-930 ลบ. เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2024 ลง 11% เพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐาน tax rate ขึ้นเป็น 20% แต่ภาพรวมปี 2024 เรายังเชื่อว่าจะกลับมามีกำไรปกติชัดเจนที่ 134 ลบ. จาก RevPAR ที่คาด +20% y-y ทั้งจาก OCC rate และ ADR ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง คงราคาเป้าหมาย 22 บาท Valuation ถูก เทรด PBV เพียง 0.5 เท่ายังคำแนะนำ “ซื้อ”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 31.31 จุด หรือ -0.08% ปิดที่ 39,282.33 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อและ อัตราดอกเบี้ยของเฟด

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก โดยนักลงทุนรอการรายงานดัชนีเงินเฟ้อออสเตรเลียและกำไรภาคการผลิตของจีน เพื่อประเมินทิศทางของตลาดต่อไป

(0) ค่าเงินบาท ทรงตัว อยู่ที่บริเวณ 36.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.06%

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 81.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตาสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง เพื่อประเมินว่าจะส่งผลกระทบอุปทานน้ำมันในตลาดโลกมากเพียงใด ในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 81.08 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.07%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 2,177.20ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งความหวังว่าที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่เฟด ให้ความสำคัญในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,199.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.03%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 830.15/ -0.62%

- Advertisement -