NAT เข้ารับงานจ้างเหมาขยายโครงข่ายอุปกรณ์สื่อสัญญาณขนาดใหญ่ Backbone Network รองรับการให้บริการ ISP-POP และ บริการ IIG ของ NT มูลค่า 89.45 ล้านบาท พร้อมรับงานภาครัฐ-เอกชนช่วงไตรมาส 1/67 เพิ่ม 30 งาน เสริมศักยภาพการเติบโต เดินหน้าเข้าประมูลงานเพิ่มอีก 2,200 ล้านบาท หนุนรายได้ปี 67 โตตามเป้า 30%

นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทเข้ารับงานจ้างเหมาขยายโครงข่ายอุปกรณ์สื่อสัญญาณขนาดใหญ่ระดับ Backbone Network รองรับการให้บริการ ISP-POP และ บริการ IIG มูลค่ารวม 89.45 ล้านบาท ซึ่งมีบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เป็นเจ้าของโครงการ ระยะเวลาสัญญา 150 วัน ระหว่างวันที่ 12 มกราคม – 11 มิถุนายน 2567

สำหรับงานโครงการดังกล่าวอยู่ในกลุ่มงานประเภทระบบโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน โดยเป็นการขยายโครงข่ายหลัก (Backbone Network) ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค จาก จ.กรุงเทพฯ ไปยังระบบการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต หรือ International Internet Gateway (IIG) ที่มีจุดเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศจากทางพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นการขยายขนาดการ รับ-ส่ง ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตของทั้งประเทศ ที่ปัจจุบันมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าศึกษาระบบโครงข่ายเป็นที่เรียบร้อย พร้อมเตรียมดำเนินงานตามขั้นตอนต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทยังเข้ารับงานพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 1/2567 ประมาณ 30 งาน อีกทั้งมีแผนการเข้าประมูลงานเพิ่มเติม เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ให้เติบโตต่อเนื่อง โดยเป็นงานที่ครอบคลุมกลุ่มงานต่างๆ อาทิ กลุ่มงานระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที, งานด้านระบบคลาวด์ และ งานระบบการติดต่อสื่อสารแบบครบวงจร อีกทั้งบริษัทเริ่มดำเนินงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการร่วมกับเทคโนโลยีขั้นสูงของ เดลล์ เทคโนโลยีส์ เพื่อตอบรับเทรนด์การใช้เทคโนโลยีขององค์กรในปัจจุบัน เช่น Cybersecurity, AI และ Software Development เป็นต้น

“บริษัทมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้ารับงานที่มีขนาดใหญ่และให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่มีหลากหลายมากขึ้น คาดว่าจะมีโอกาสในการเข้าประมูลโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนในปี 2567 มูลค่ารวมประมาณ 2,200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทได้มีการเพิ่มบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อรองรับการดำเนินงานส่วนต่าง ๆ โดยจะสามารถนำเสนอบริการโซลูชันทางเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่แก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ก้าวทันต่อดีมานด์การใช้เทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว จะส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ในปี 2567 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 30% และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ดีจากการเข้ารับงานที่มีศักยภาพ” นายสุธี กล่าวเพิ่มเติม

- Advertisement -