รอติดตามแรงงานสหรัฐฯ สัปดาห์นี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปิดทำการ เนื่องในวัน Good Friday รวมถึงตลาดหุ้นฝั่ง EU ก็ปิดทำการเช่นกัน

Market Outlook

วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (PCE) ประจำเดือน ก.พ. ขยายตัว 2.5%YoY 0.3%MoM และ Core PCE ขยายตัว 2.8%YoY 0.3%MoM สอดคล้องกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ ราคาสินค้าคงที่ปรับลงต่อเนื่องได้แก่สินค้าคงทน (-2%YoY) และราคาพลังงาน (-2.3%YoY) อย่างไรก็ตาม ไม่มีการตอบสนองจาก นักลงทุนเพราะตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปิดทำการ ส่วน CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนักส่วนใหญ่คงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค. แต่ก็ยังให้น้ำหนักส่วนมากในการปรับลดดอกเบี้ยเดือน มิ.ย. ก็เชื่อว่าด้วยตัวเลขเงินเฟ้อที่ดูค่อยๆผ่อนคลายจะเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงต้นสัปดาห์ สำหรับปัจจัยสัปดาหนี้จะเข้มข้นมากขึ้นกับตลาดแรงงานในสหรัฐฯที่มีกำหนดรายงาน (1) ตำแหน่งเปิดรับสมัครงานในวันอังคาร Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 8.79 ล้านตำแหน่ง (2) การจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.49 แสนราย (3) การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานในวันศุกร์ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.05 แสนราย และ 3.9% ตามลำดับ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหากรายงานแล้วแย่กว่าประเมินไว้ มองเป็นบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลก

สำหรับตลาดหุ้นไทยแม้ปัจจัยภายนอกจะดูเป็นบวกแต่ไม่ได้คาดหวัง Upside ที่เยอะเพราะว่าการขยายตัวเศรษฐกิจยังต่ำ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน ก.พ. ระบุว่าขยายตัวต่ำ โดยได้แรงหนุนจากภาคบริการที่ขยายตัวตามรายรับและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวมากขึ้นตามการลงทุนด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ อย่างไรก็ตามการลงทุนในหมวดก่อสร้างปรับลง การบริโภคภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน ตามการใช้จ่ายสินค้าคงทนที่ลดลงแต่การบริโภคภาคบริการและสินค้าไม่คงทนยังขยายตัวเพราะได้ปัจจัยหนุนจากรัฐอุดหนุนราคาพลังงานและมาตรการลดหย่อนภาษี การลงทุนภาครัฐหดตัว YoY จากรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางเพราะงบประมาณปี 67 ที่ล่าช้า ส่วนการส่งออกหากเทียบกับเดือนก่อนหน้าปรับลงจากสินค้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอีกปัญหามาจากเชิงโครงสร้างของสินค้าส่งออกไทย

สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหว ในกรอบ 1360 – 1400 เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังแนะทยอยสะสมในระดับปัจจุบันจากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ แนะนำกลุ่มค้าปลีก (BIC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (SAWAD MTC TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB) สื่อสาร (ADVANC INTUCH)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.10 บาท)

ปี 24 TU ตั้งเป้ารายได้เพิ่ม 3-4% ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่ธุรกิจอาหารแปรรูปตั้งเป้าเพิ่มปริมาณขายมากขึ้นเพื่อมาชดเชยราคาขายที่คาดว่าจะลดลงตามต้นทุนปลาทูน่า ส่วนอาหารแช่แข็งยังคงมีผลกระทบจากนโยบายปรับลดขนาดสินค้าอยู่ ทั้งนี้สิ่งที่จะเปลี่ยนไปในปี 24 อย่างชัดเจนคือภาษี หลังจากในปี 22-23 มีรายได้ภาษีเพราะใช้สิทธิขาดทุนของ RL เข้ามา แต่ในปี 24 ไม่มี RL แล้ว ทำให้ TU ต้องกลับมาจ่ายภาษีแล้วซึ่งเราประเมินว่ามีอัตราภาษีจ่ายที่ 9% ซึ่งทำให้เราปรับกำไรสุทธิปี 24 ลงจากเดิม 8% มาอยู่ที่ 5,553 ล้านบาท

HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท)

ผู้บริหารวางกลยุทธ์ 3S เพื่อหนุน SSSG โต 3%YoY ในปี 2024 และยอดขายสาขาใหม่อีกราว 3%-4% ขณะที่การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง QTD ใน 1Q24 ยังทรงตัว YoY (HomePro +0.5%, Mega Home -3.0%, HomePro Malaysia -0.5%) แม้ว่าจะมีมาตรการ Easy E-Receipt ของรัฐบาลในช่วง 1 ม.ค. 2024 – 15 ก.พ. 2024 ช่วงหนุน SSSG เดือนก.พ. 2024 เป็นบวกราว 1%-2% ทำให้ทั้งเดือน ก.พ. +4% Yoy

- Advertisement -