วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,374 / 1,370 แนวต้าน 1,386 / 1,390
การรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐ-จีน ฟื้นตัวขึ้นสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโลกดีขึ้น มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงสำหรับปัจจัยภายในประเทศปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เบาบางลงจากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยต่ำ และการเข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่เรามองตลาดจะให้น้ำหนักต่อการประชุม กนง. ในสัปดาห์หน้า
Our View? “เหงาใจ”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1374 / 1370 และแนวต้านที่บริเวณ 1,386 / 1,390 เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน มี.ค. ของจีนออกมาที่ระดับ 50.8 กลับมาอยู่เหนือระดับ 50.0 สอดคล้องกับตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือน มี.ค. โดย Caixin ที่ระดับ 51.1 สะท้อนถึงแนวโน้มการขยายตัวของภาคการผลิตของจีน ขณะที่ตัวเลข PMI ภาคบริการเดือน มี.ค. ของจีนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.0 มากกว่าที่ตลาด บ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นหลังตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเริ่มกลับมาเป็นบวกในช่วงก่อนหน้ามองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคได้ อีกทั้งยังเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มส่งออกของไทยเพิ่มเติม
ขณะที่เมื่อคืนนี้ตัวเลขดัชนีภาคอุตสาหกรรมโดย ISM (ISM Manufacturing) เดือน มี.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 50.3 มากกว่าที่ตลาดคาด และกลับมาอยู่เหนือระดับ 50.0 สะท้อนการขยายตัวของภาคผลิตสหรัฐขยายตัว ขณะที่ยังต้องติดตามการรายงานตัวเลขดัชนีภาคบริการโดย ISM (ISM Service Index) เดือน มี.ค. คาดจะออกมาที่ระดับ 52.7 ปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และตัวเลขรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (Factory Orders) เดือน ก.พ. คาดจะกลับมาขยายตัว 1.0% สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้
ในส่วนของราคาสัญญาน้ำมันดับล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น-กลางต่อเนื่อง ปิดที่ระดับ 83.71 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.54 ดอลลาร์ (+0.65%) ได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบตึงตัว โดยเรายังคาดว่าการประชุม OPEC+ มองจะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายปรับลดกำลังการผลิตแต่อย่างใดในการประชุม OPEC+ ในสัปดาห์หน้า แม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม อีกทั้งเราเห็นการรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งฝั่งของสหรัฐ-จีน เริ่มปรับตัวขึ้นบ่งชี้แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้
สำหรับปัจจัยภายในประเทศเราเห็นปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยเบาบางลงต่อเนื่อง คาดจากความน่าสนใจในมุมมองของนักลงทุนต่างชาติลดลงไปตามเศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้า อีกทั้งการเข้าใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายลดลงเพิ่มเติม คาดจะส่งผลให้ตลาดแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป
ทั้งนี้เรายังมองตลาดในเดือน เม.ย. จะให้ความสนใจกับการประชุม กนง. ในวันที่ 10 เม.ย. มากขึ้น โดยตลาดเริ่มมองว่า กนง. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยเรามองเป็นทั้งปัจจัยบวกและลบต่อตลาดหุ้นไทยได้ โดย ธปท.รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. ออกมาขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งเงินเฟ้อติดลบน้อยและตัวเลขส่งออกไม่รวมทองคำหดตัว ลงคาดจะกระตุ้นความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ทั้งนี้เราคาดหาก กนง. มีมติในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยคาดจะส่งผลให้ค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อมองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออกทั้ง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-อาหารสัตว์ (HANA, KCE, AAI และ ITC) ทั้งนี้เราเห็นตัวเลขดัชนีอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. ออกมา +0.11%MoM/-2.84%YoY โดยอาหารสัตว์ดัชนีผลผลิตออกมา +6.96% คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวขึ้นได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “TACC”
- นักวิเคราะห์ของเราคาดโมเมนตัมกำไร 1Q’67 เร่งตัวขึ้น YoY และ QoQ จากไม่มีการด้อยค่าจากเงินลงทุน TCI ขณะที่แนวโน้มยอดขายเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ตามการเติบโตของ 7-11 ที่มี Traffic มากขึ้น
- ทางเทคนิค ราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับที่ EMA200 วันแล้วพยายามฟื้นตัวขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD ยังอ่อนตัวลงอยู่ แต่ RSI เข้าใกล้ภาวะ Oversold แล้ว
- แนะนำ “ซื้อสะสม”
- แนวรับ 4.86 / 4.80 Target 5.20 / 5.70 Stop <4.80