พักตัวก่อนสงกรานต์ / 1,395-1,405
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET อาจสลับพักบ้าง หลังขึ้นมาต่อเนื่อง : โดยมองปัจจัยกดดันมาจาก 1) การเข้าสู่ช่วงวันทำการสุดท้ายก่อนหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาจมีแรงขายเพื่อป้องกันความเสี่ยงในช่วงวันหยุด 2) ตัวเลข CPI และ Core CPI สหรัฐประจำเดือน มี.ค.ออกมาที่ 3.5% และ 3.8%y-y ขยายตัวมากกว่าตลาดคาดที่ 3.4% และ 3.7%y-y สร้างความกังวลให้ตลาดว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันยาวนานขึ้น ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับในเชิงลบ คาดจะกดดันตลาดหุ้นไทยด้วย 3) การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ที่ 2.5% หลังมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง โดยมองอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเทียบกับปีก่อน หลังได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐที่กลับมาเบิกจ่ายตามปกติหลังงบประมาณในปี 67 มีเหตุให้ต้องล่าช้าในช่วงก่อนหน้า ทำให้มองอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีโอกาสกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-3% ในช่วง 4Q67 คาด GDP ปีนี้จะขยายตัว 2.6% โดยยังมีความกังวลในการฟื้นตัวของการส่งออกที่มีปัญหาเชิงโครงสร้าง การใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลงมาก และแรงกดดันจากสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงกว่าปกติ ด้านปัจจัยหนุนมาจากความคืบหน้าของโครงการเงิน ดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่งได้เผยแหล่งที่มาของเงิน โดยจะมาจาก 3 แหล่ง คือ งบประมาณปี 67 งบประมาณปี 68 และ หน่วยงานของรัฐ (ธกส) รวม 5 แสนล้านบาท หนุนหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและเกี่ยวข้อง ขณะที่นักลงทุนจับตา 2 ประเด็นสำคัญ คือ ตัวเลข CPI จีนเดือน มี.ค. คาดจะชะลอตัวลงทั้ง m-m และ y-y มาอยู่ท่ -0.5% และ 0.4% เทียบเดือนก่อนที่อยู่ที่ 1% และ 0.7% ตามลำดับ อาจกลับมาสร้างความกังวลถึงการฟื้นตัวของจีน และผลการประชุม ECB หลังตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนมี.ค. ยังชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยอยู่ที่ระดับ 2.4% ซึ่งยังสูงกว่าเป้าหมาย (2%) จึงคาด ECB จะคงดอกเบี้ยที่ 4.5% ตามเดิม
- กลยุทธ์การลงทุน: 1) ท่องเที่ยว : AAV, AOT, BA, CENTEL, ERW, OR, PTG 2) Digital Wallet : CRC, NSL, TACC, CPALL, SNNP, BJC, CBG, 3) กนง.คงดอกเบี้ย : KTB, SCB, BBL, TTB, KBANK 4) บาทอ่อน : ITC, ASIAN, SAPPE 5) Selective : PTT, BTS, BEM
ปัจจัยบวก
- TSMC รายงานว่า ยอดขายในไตรมาส 1/2567 เพิ่มขึ้นเกินคาด 16% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5.926 แสนล้านดอลลาร์ใต้หวัน และคาดการณ์ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ในปีนี้ เป็นบวกต่อหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กฯ
- Veson Nautical ระบุว่า กลุ่มบริษัทผลิตยานยนต์และผู้ขนส่งจีนสั่งซื้อเรือบรรทุกรถยนต์มากเป็นประวัติการณ์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนการส่งออกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
- ชาวเมียนมาแห่ซื้อคอนโดฯ ในไทยสูงเป็นอันดับ 4 มูลค่ากว่า 3.7 พันล้านบาท เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สงบทางการเมืองภายใน
- กนอ.มอบส่วนลดพิเศษกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับผู้ประกอบการในภาคใต้ถึงร้อยละ 5% ในส่วน Rubber City เพื่อผลักดันการลงทุนในภาคใต้
- ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า BMW เพิ่มขึ้นกว่า 41% ในช่วง 3 เดือนแรกของปี เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 28%
ปัจจัยลบ
- Preqin ระบุว่า การระดมทุนทั่วโลกปรับตัวลดลง 30% ในไตรมาส 1/2567โดยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนยังคงระมัดระวัง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศต่าง ๆ และตลาดซบเซาเกินกว่าจะเสนอขายหุ้น IPO
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่ “เชิงลบ” จาก “มีเสถียรภาพ” โดยระบุถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจีนอาจจะเผชิญปัญหาหนี้สินเพิ่มขึ้น ในขณะที่รัฐบาลพยายามกอบกู้เศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
- ม.หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนกมี.ค. 67 ปรับตัวลดลงจากระดับ 63.8 เป็น 63.0 เป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หลังผู้บริโภคเริ่มกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน
- IMF ชี้ปัญหาภายในของจีนส่งผลให้ผลผลิตของตลาดเกิดใหม่อื่นๆ มีความผันผวน 10% และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว 5%
PICKS OF THE DAY
CRC BUY
- เป้าหมาย 38.00 / 39.00 แนวรับ 36.00
- แรงหนุนจาก Digital Wallet: ทางฝ่ายมองได้รับ Sentiment เชิงบวก หลังโครงการ Digital Wallet มีความคืบหน้า รวมถึงการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์
- แผนขยายธุรกิจ: บริษัทมีแผนจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทั้งในไทยและเวียดนาม โดยขยายตัวตามประเภทของธุรกิจดังนี้ 1) ห้างสรรพสินค้าในปีนี้จะเปิดเซ็นทรัลเพิ่ม 2 แห่ง ที่นครสวรรค์และนครปฐม 2) ไทวัสดุ มีแผนเปิดเพิ่มอีกประมาณ 9 สาขาในปีนี้ และเตรียมขยายสาขาในอีก 5 ปีข้างหน้าประมาณ 8-10 สาขา/ปี 3) Tops ตั้งเป้าหมายเปิดประมาณ 10 สาขาในปีนี้ 4) โรบินสันไลฟ์สไตล์ จะเน้นไปที่การปรับพื้นที่ และเพิ่มพื้นที่เช่ามากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายสาขาอีก 2 สาขาในปีหน้า และ 5) Go Wholesale ในปีนี้มีแผนเปิดเพิ่ม 7 สาขา
KTB BUY
- เป้าหมาย 17.50 / 18.00 แนวรับ 16.50 / 16.80
- ได้ประโยชน์จากโครงการรัฐและการคงอัตราดอกเบี้ย: จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ทยอยออกมาจะทำให้ KTB ในฐานะที่เป็นธนาคารที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลจะได้ประโยชน์ทั้งความต้องการสินเชื่อที่มากขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมที่จะเพิ่มขึ้นจากการเป็นตัวกลางในการส่งผ่านงบประมาณไปสู่หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ และได้ประโยชน์จากการคงดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ที่จะทำให้ผลตอบแทนสินเชื่อไม่ลดลงไปอีก
- กำไร 1Q67 เด่นสุด q-q: ทางฝ่ายคาดว่า KTB จะมีกำไร 1Q67 11.8 พันลบ. เพิ่มขึ้นถึง 93.1% q-q เด่นที่สุดในกลุ่ม โดยคาดว่าทั้งกลุ่มจะมีกำไร 1Q67 เพิ่มขึ้นเพียง 22.75 q-q