บล.พาย
TU: Thai Union Group
1Q24 ไตรมาสแรกที่ไม่มี RL คาดกำไรปกติโต 16%YoY
เราคาดว่าผลประกอบการงวด 1Q24 จะมีกำไรสุทธิที่ 931 ล้านบาท (-9%YoY) โดยธุรกิจที่เติบโตดีคือกลุ่มอาหารสัตว์เลียงที่ปัญหาลูกค้าสต๊อกล้นเริ่มคลี่คลายได้แล้ว รวมกับธุรกิจอาหารแปรรูป ส่วนธุรกิจที่กดดันคือกลุ่มอาหารแช่แข็งที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการปรับลดขนาดสินค้าอยู่ รวมถึงผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา ทั้งนี้เราคาดรายได้ช่วงดังกล่าวเติบโตได้เล็กน้อยมาอยู่ที่ 32,985 ล้านบาท (+1%YoY,-7%QoQ) สำหรับภาพรวมทั้งปี ยังคงมองว่าผลประกอบการจะค่อยๆ เติบไตได้ โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจอาหาร สัตว์เลี้ยงเป็นหลัก ทั้งนี้เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิมที่ 5,553 ล้านบาท แม้กำไรช่วง 1Q24 จะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 16%
คาด 1Q24 มีกำไรสุทธิ 931 ล้านบาท
- เราคาดว่า 1Q24 TU จะมีกำไรสุทธิ 931 ล้านบาท (-9%YoY) และพลิกจากที่ขาดทุนกว่า 17,170 ล้านบาท ใน 4Q23 แต่ถ้าดูเฉพาะกำไรปกติจะโต 16%YoY เป็นผลจากกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ส่วนเทียบกับ 4Q23 จะลดลง 23%QoQ เพราะเป็นช่วง Low Seasons ของธุรกิจอาหารแช่แข็ง
- รายได้คาดที่ 32,985 ล้านบาท (+1%YoY, -7%QoQ) เทียบกับปีก่อนเติบโตจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงหลังปัญหาสต๊อกลูกค้าล้นเริ่มหมดไป ขณะที่อาหารทะเลแปรรูปเติบโตได้เล็กน้อยจากผลดีของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่วนอาหารแช่แข็งลดลงแรงเพราะ TU มีการปรับรูปแบบสินค้าใหม่ที่มีขนาดเล็กลง (เริ่ม 2Q23) และเป็นช่วง Low Seasons ของธุรกิจ ส่วนเทียบกับ 4Q23 ลดลงในส่วนของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารแช่แข็ง
- กำไรขั้นต้นคาดที่ 16.9% ดีขึ้นจาก 15.1% ใน 1Q23 เพราะธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีกำไรที่ดีขึ้น แต่ลดลงจาก 17.8% ใน 4Q23 ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารประเมินไว้ที่ 4,123 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า
- ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 152 ล้านบาท (-34%YoY) แต่พลิกจากที่รับรู้ขาดทุน 400 ล้านบาทใน 4Q23 ซึ่งไตรมาสนี้จะเป็นไตรมาสแรกที่ไม่มีการรวมส่วนแบ่งจาก Red Lobster เข้ามา (1Q23 รับรู้ส่วนแบ่งกำไรประมาณ 20 ล้านบาท 4023 รับรู้ขาดทุนกว่า 552 ล้านบาท)
- ไตรมาสนี้ TU จะกลับมามีค่าใช้จ่ายภาษีประมาณ 94 ล้านบาท จากที่รับรู้รายได้ภาษี 242 ล้านบาทใน 1Q23 และ 40 ล้านบาทใน 4Q23 เพราะไม่มีผลผลขาดทุนจาก Red Lobster มาช่วยแล้วมองราคาปลาต่ำสุดแล้ว หลังจากนี้ค่อยๆ เพิ่ม
ภาพรวมช่วงที่เหลือของปี TU ยังคงมองว่าเป้าการเติบโตที่ระดับ 3-4%
ยังคงมีความเป็นไปได้อยู่ โดยมองว่าราคาปลาที่ลดลงจนมาอยู่ที่ระดับ 1,350 เหรียญฯ/ตัน จะเป็นระดับที่ต่ำสุดแล้วก่อนจะค่อยๆปรับขั้น ซึ่งจะทำให้ผลกระทบจากราคาที่ต้องให้กับลูกค้าเริมลดลง ขณะที่ธุรกิจอาหารแช่แข็งจะค่อยๆปรับตัวดีขั้นแล้วเพราะจะเป็นการเทียบกับฐานที่มีการปรับขนาดสินค้าแล้ว ด้านอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ต่อเนื่อง หลังกหมดปัญหาสต๊อกลูกค้าล้น
คงประมาณการและคำแนะนำเดิม “ซื้อ”
เรายังคงประมาณกำไรสุทธิทั้งปีที่ 5,553 ล้านบาทไว้เท่าเดิมก่อน แม้กำไรในช่วง 1Q24 จะคิดเป็นเพียง 16% ของกำไรทั้งปี โดยมองว่าหลังจากนี้จะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นจากผลดีของการเข้าสู่ช่วง High Seasons ของธุรกิจ ซึ่งทำให้เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม โดรประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 18.1 บาท (16XPER’24E)