บล.พาย:

TTB: TMBThanachart PCL

หุ้นเติบโตและเงินปันผลสูง

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 1.98 บาท เราชอบ TTB ที่เป็นหุ้นเติบโตและจ่ายเงินปันผลสูงในกลุ่มธนาคาร (1) ความสามารถการทำกำไรสูงขึ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะเติบโต 14% YoY โดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร (2) งบดุลแข็งแกร่งจากกลยุทธ์การตั้งรับ ทำให้สำรองหนี้ฯ ปรับลดลงจะลดทอนผลกระทบจากต้นทุนการเงินที่จะเร่งตัวขึ้นในปี 2024 และ (3) แม้ราคาหุ้นปรับขึ้นโดดเด่น 9% YTD แต่ราคาหุ้นยังไม่แพงซื้อขายที่ราว 0.7x PBV’24E และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง 6.6% ในปี 2024 สำหรับใน 1Q24 ผลการดำเนินงานยังขยายตัวต่อเนื่อง เราคาดการณ์กำไรสุทธิแข็งแกร่งที่ 5.1 พันล้านบาท (+19.3% YoY, +5.3% QoQ) คุณภาพสินเชื่อทรงตัว โดยมี NPL ratio ที่ 2.7% และ Coverage ratio สูงที่ 156.6%

คาดกำไรสุทธิใน 1Q24 แข็งแกร่ง

  • เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q24 แข็งแกร่งที่ 5.1 พันล้าน (+19.3% YoY, +5.3% QoQ) โดยกำไรที่ขยายตัว YoY เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.3% (+29 bps YoY, -10 bps QoQ) และค่าจ่ายภาษีลดลง ขณะที่กำไรเติบโต QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง และสำรองหนี้ฯลดลง หลังจากได้ตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษใน 4Q23
  • แม้ว่า TTB จะเน้นขยายสินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อบ้านแลกเงินแต่เราคาดว่าสินเชื่อใน 1Q24 จะลดลงราว 1% QoQ (-3.2% YoY) หลังจากสินเชื่อสุทธิในเดือน ม.ค.-ก.พ. ลดลง 0.6% จากเดือน ธ.ค. 2023 เนื่องจากการลดลงของสินเชื่อ SME และสินเชื่อรถยนต์ใหม่เป็นหลัก สำหรับสินเชื่อปี 2024 เราคาดว่าจะหดตัว 2.2% YoY
  • จากการเน้นกลยุทธ์แบบตั้งรับทำให้ TTB ควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดีเราคาดว่า NPL ratio ปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.7% เพราะฐานสินเชื่อที่ลดลง ขณะที่ Coverage ratio อยู่ที่ 156.6%

การเติบโตของกำไรปี 2024 โดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร

  • TTB เน้นขยายลูกค้าที่มีคุณภาพเพื่อลดความเสี่ยงหนี้เสีย และสร้างการเติบโตจากการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการพัฒนาระบบดิจิตอลเพื่อลดต้นทุนการให้บริการ นอกจากนี้ TTB จะสามารถใช้ประโยชน์ภาษีคงเหลือ 15.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเราคาดว่า TTB ไม่มีค่าใช้จ่ายภาษีไปจนถึงปี 2026 และเริ่มกลับมาจ่ายภาษีบางส่วนในปี 2027
  • แม้ TTB ไม่เน้นการเติบโตสินเชื่อ และ NIM ถูกกดดันมากขึ้นจากต้นทุนการเงินที่เร่งตัวขึ้นในปี 2024 แต่จากการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ และการตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษใน 4Q23 ทำให้ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ปี 2024 ปรับลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักหนุนกำไรสุทธิขยายตัวต่อเนื่อง 14% ในปี 2024 โดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 1.98 บาท

แนะนำ “ซื้อ” เนื่องจาก (1) ความสามารถการทำกำไรที่สูงขึ้น (2) งบดุลแข็งแกร่ง ควบคุมคุณภาพสินเชื่อที่ดี และการเพิ่มความแข็งแกร่งจากการตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษในปี 2023 (3) อัตราผลตอบแทนการลงทุนยังสูง และราคาหุ้นยังไม่แพง หุ้นซื้อขายที่ราว 0.7x PBV’24E มูลค่าพื้นฐานของเราคำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 9%, TG 2%) อิงจาก 0.8x PBV’24E หรือ -0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี

- Advertisement -