บล.ฟินันเซีย ไซรัส

CP AXTRA (CPAXT TB)

คาดกำไรปกติ 1Q24 โต y-y จากยอดขายเพิ่ม ดอกเบี้ยลด

  • คาดกำไรปกติ 1Q24 ที่ 2.46 ลบ. ลดลง 25% q-q จากผลด้านฤดูกาลเพิ่มขึ้น 18% จากยอดขายของทั้ง 2 ธุรกิจเพิ่มขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายลดลง
  • ยังคงคาดกำไรปกติทั้งปีที่ 10.6 พันลบ. (+21% y-y)
  • คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 36.0 บาท (DCF)

คาดกำไรปกติ 1Q24 ยังโต y-y หนุนจากยอดขายของทั้ง 2 ธุรกิจ และดอกเบี้ยลด

เราคาดกำไรปกติ 1Q24 ที่ 2.46 พันลบ. ลดลง 25% q-q จากปัจจัยด้านฤดูกาลเพิ่มขึ้น 18% y-y หนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของทั้ง 2 ธุรกิจ เราคาดยอดขายรวมเติบโต 6% y-y และคาด SSSG ธุรกิจ Wholesale เพิ่มขึ้น 4% และ Retail เพิ่มขึ้น 6% รวมถึงมีการขยายสาขาของ MAKRO 2 สาขา รูปแบบ Eco Plus และ Lotus’s ปิดสาขา go fresh 4 สาขา และ Transfer ร้าน Supermarket เป็น Hybrid store 1 สาขา และเปิดสาขา Supermarket ที่มาเลเซียเพิ่ม 1 สาขา นอกจากนี้เราคาดรายได้ค่าเช่าจะปรับตัวขึ้น 10% y-y จากพื้นที่เช่าที่เพิ่มขึ้น และยังคงรักษา Occupancy rate ได้ระดับ 93-94%

ความสามารถในการทำกำไรทรงตัว แต่ค่าใช้จ่ายธุรกิจ Wholesale สูงขึ้น

เราคาด GPM ของ MAKRO ลดลงเล็กน้อย y-y เป็น 10.8% (vs 1Q23 ที่ 10.9%) จากศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ สำหรับ Lotus’s คาด GPM ทรงตัว y-y ที่ 18.0% แม้ product mix ของสินค้าอาหารสด, อาหารแห้งจะเพิ่มขึ้น แต่ถูกชดเชยจาก mixed ของเครื่องใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น ซึ่งมี Margin ต่ำกว่ากลุ่มอาหาร ขณะที่ SG&A ของ MAKRO ยังสูงขึ้นจากการลงทุนใน Omni channel และค่าใช้จ่ายก่อนเริ่มดำเนินงานของศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ สำหรับ Lotus’s คาดค่าใช้จ่ายทรงตัว y-y ได้ นอกจากนี้เราคาดดอกเบี้ยจ่ายปรับลดลง 24% จากผลของ Debt restructure

ยังคงคาดกำไรปกติปี 2024 เติบโต 21% หนุนจาก Lotus’s ฟื้นและดอกเบี้ยลด

หากกำไรปกติ 1Q24 ตามคาด จะคิดเป็น 23% ของกำไรปกติทั้งปี 2024 โดยเรายังคงคาดกำไรปกติปี 2024 จะเติบโตเด่น 21% y-y จากการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของ Lotus’s และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงในช่วง 1H24 นอกจากนี้ยังมีมูลค่าการ synergy ของการรวมธุรกิจ MAKRO และ Lotus’s ที่คาดว่าจะเริ่มเห็นในปี 2025 เป็นต้นไป

คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 36.0 บาท

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 36.0 บาท ประเด็นความกังวลการโหวตคัดค้านของการปรับโครงสร้างธุรกิจคลี่คลาย แต่การมีผู้เล่นรายใหม่ในตลาด Wholesale ยังคงต้องติดตาม อย่างไรก็ดี เรายังชอบ CPALL มากกว่า CPAXT ในแง่ Valuation ที่ถูกกว่า โดย CPALL เทรด 2024E P/E ที่ 23.9 เท่า, CPAXT ที่ 30.8 เท่า

Investment thesis

CPAXT เป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งภายใต้ชื่อ แม็คโคร ภายหลังการรวมธุรกิจค้าปลีกและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ โลตัส ทำให้ CPAXT เกิด Synergy ต่างๆ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของแม็คโครในธุรกิจค้าส่ง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดอาหาร และความเชี่ยวชาญของ Lotus’s ในธุรกิจค้าปลีกและการบริหารพื้นที่เช่า เข้ามาอยู่ภายใต้ CPAXT

โดยในปี 26-2024E เราคาดรายได้ของบริษัทจะเติบโตเฉลี่ย 4.1% CAGR สู่ระดับ 550 พ้นลบ. ในปี 2026 และมีกำไรปกติเติบโตเฉลี่ย 17.1% CAGR สู่ระดับ 14 พันลบ.ในปี 2026 โดยมีปัจจัยหนุนดังนี้ 1) ภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศฟื้นตัวช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น 2) Synergies สำหรับรวม MAKRO และ Lotus’s เป็นนิติบุคคลเดียวกัน 3) กลยุทธ์การผสมผสานช่องทาง O2O

Company profile

ประกอบธุรกิจค้าส่งภายใต้ชื่อ แม็คโคร จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ลูกค้าที่เป็น SME รวมทั้งร้านค้าปลีกและกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสร ะและสถาบันต่างๆและธุรกิจฟูดเซอร์วิสนำเข้าและจำหน่ายอาหารแช่แข็งและอาหารแช่เย็น ร้านอาหารและร้านค้าปลีกขนาดเล็ก อีกทั้งบริษัทย่อยดำเนิน ธุรกิจค้าปลีกและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ โลตัส

www.cpaxtra.com

Catalysts

ปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นได้แก่ 1) การบริโภคในประเทศและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวดีกว่าที่คาด 2) ผลการดำเนินงานของธุรกิจค้าปลีกฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาด

Risks to our call

ความเสี่ยง 1) อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) น้อยกว่าที่คาด 2) อัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าที่คาด 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงกกว่าที่คาด 4) ผลประกอบการสาขาในต่างประเทศขาดทุน

- Advertisement -