บล.พาย:
TISCO: Tisco Financial Group PCL
คาดกำไรปี 2024 ลดลง แต่เงินปันผลยังสูง
เราคงคำแนะนำ “ถือ” เพื่อรับเงินปันผล โดยคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ 7.6% ในปี 2024-25 แต่ได้ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 99 บาท หลังจากได้เข้าประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2024-25 ลง 3%/4% จากมุมมองต่อ NIM ที่อ่อนแอกว่าคาดทำให้มองว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะหดตัวที่ 3.3% และฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย 0.5% ในปี 2025 เพราะแรงกดดันจาก NIM ลดลง และสำรองหนี้ฯเพิ่มขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานงวด 1Q24 เป็นไปตามคาด โดยมีกำไรสุทธิที่ 1.73 พันล้านบาท (-3.3% YoY, -2.6% QoQ) กดดันจาก NIM ลดลง และสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น ขณะที่ NPL ratio ปรับขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 2.3% และ Coverage ratio ลดลงที่ 177.8%
การประชุมนักวิเคราะห์
- เรามีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยหลังการประชุมนักวิเคราะห์ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า หนี้ครัวเรือนสูง และคุณภาพสินเชื่อเปราะบาง ทำให้ (1) TISCO เพิ่มความระวังระวังมากขึ้นในการขยายสินเชื่อ (2) NIM มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องอีก 1-2 ไตรมาสจากการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของต้นทุนการเงิน (3) การเติบโตในสินเชื่อกลุ่ม High yield ทำให้ Credit cost จะปรับสูงขึ้นเป็น 50 bps/100bps ในปี 2024-25 และ (4) TISCO เน้นการควบคุม ค่าใช้จ่ายดำเนินงานมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ Cost to income ratio ใน ปี 2024-25 ปรับลดลงจาก 49.3% ในปี 2023
- แม้จะเพิ่มความระมัดระวังในการเติบโต แต่ TISCO มองว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนผ่านสาขาของ “สมหวัง เงินสั่งได้” ยังมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี และจะช่วยการติดตามหนี้มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยคงเป้าหมายขยายสาขาใหม่เพิ่ม 200 แห่ง/ปี จาก 645 สาขา ณ สิ้นปี 2023
- Coverage ratio มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องในปี 2024 และอาจจะลดลงอยู่ที่ราว 150% ในปี 2024 แข็งแกร่งเพียงพอรองรับความไม่แน่นอน และการขยายธุรกิจ
- อย่างไรก็ดี TISCO มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจะดีขึ้นใน 2Q24 ผลบวกจากการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 2024ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2024-25 ลงจาก NIM ลดลง
- NIM ใน 1Q24 ปรับลดลงมากกว่าคาด และแนวโน้มจะยังลดลง ต่อเนื่องอีก 2 ไตรมาสในมุมมองของเรา ทำให้เราปรับลดสมมุติฐาน NIM ลง 35 bps/15 bps เหลือ 4.6%/4.8% ในปี 2024-25 ส่งผลให้ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลง 3%/4% ในปี 2024-25 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะปรับลดลง 3.3% ในปี 2024 และปรับเพิ่มขึ้น 0.5% ในปี 2025
- ด้วยฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง คาดว่า TISCO จะยังคงจ่ายเงิน ปันผลได้ระดับสูง คาด Dividend yield ที่ 7.6% ในปี 2024-25
คงคำแนะนำ “ถือ” ปรับมูลค่าพื้นฐานเหลือ 99 บาท
เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 99 บาท จากเดิม 103 บาท จากการปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2024-25 ลดลง ประเมินมูลค่าด้วยวิธี GGM (ROE 16.2%, Terminal growth 2%) 50 1.82x PBV’24E KSO +0.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี (2014-2023)
สรุปผลการดำเนินงานใน 1Q24
- กำไรสุทธิงวด 1Q24 ออกมาตามคาดของเราที่ 1.73 พันล้านบาท (-3.3% YoY, -2.6% QoQ) แม้ว่าค่าใช้จ่ายการดำเนินงานจะปรับลดลงจากความพยายามในการควบคุมค่าใช้จ่าย แต่กำไรสุทธิปรับลดลง YoY และ QoQ เนื่องจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลง QoQ (2) สำรองหนี้ฯ ปรับเพิ่มขึ้น ล้อกับหนี้เสียปรับเพิ่มขึ้น และการเติบโตในสินเชื่อกลุ่ม High yield ทำให้มีภาระสำรองหนี้ฯเพิ่มขึ้นตามมา และ (3) รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง โดยเฉพาะจากค่าธรรมเนียมธุรกิจ Bancassurance และธุรกิจหลักทรัพย์
- สินเชื่อใน 1Q23 ขยายตัวชะลอลงที่ 0.2% QoQ (+6.9% YoY) ส่วนใหญ่จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อ SME ในกลุ่มดีลเลอร์รถยนต์ และสินเชื่อจำนำทะเบียนผ่านสาขา “สมหวัง เงินสั่งได้”
- คุณภาพสินเชื่ออ่อนแอลงจากกลุ่มดีลเลอร์รถยนต์ และสินเชื่อกลุ่ม High yield (สินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว) โดย NPL ratio เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 2.3% และอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ต่อหนี้เสีย (Coverage ratio) ปรับลดลงที่ 177.8%
- NIM ปรับลดลงมากกว่าคาดเหลือ 4.8% (4Q23: 5.2%) เนื่องจากต้นทุนทางการเงินเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง
- TISCO จะจ่ายเงินปันผล 5.75/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานใน 2H23 (รวมจ่าย 7.75 บาท ในปี 2023) โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 เม.ย. และจ่ายเงินในวันที่ 20 พ.ค.