การเงิน VS การคลัง / 1,355-1,370

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET คาดแกว่งตัวออกข้าง : โดยตลาดเข้าสู่ช่วงรอความชัดเจนจากประเด็นภายใน มีปัจจัยบวกจำกัด และมีแรงกดดันจากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.65% ก่อนจะมีการประกาศตัวเลข GDP 1Q67 สหรัฐในคืนนี้คาดจะออกมาที่ 2.5%q-q ขยายตัวน้อยลงจากไตรมาสก่อนที่ 3.4%q-q และตัวเลข PCE เดือนมี.ค. ในวันศุกร์นี้ ผลตอบแทนของพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นอาจกดดันตลาดสินทรัพเสี่ยง แต่หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและชิป ซึ่งมีผลประกอบการออกมาดีที่ยังช่วยหนุนภาพรวมตลาดสหรัฐ มองยังเป็นแรงหนุนให้กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯในตลาดหุ้นไทยเช่นกัน ด้านปัจจัยหนุนอื่นมาจากการที่ ททท. ออกมาคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวไหลเข้าไทย คาดจะเพิ่มขึ้นช่วงวันหยุดวันแรงงานจีนและเป็นช่วงคาบเกี่ยว Golden week ของญี่ปุ่น โดยคาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 9.96 แสนคน ซึ่งจะช่วยหนุนภาคการท่องเที่ยวต่อเนื่องต่อจากช่วงสงกรานต์ เป็นบวกต่อหุ้นค้าปลีก ท่องเที่ยวและโรงแรม ในส่วนของปัจจัยที่ตลาดรอความคืบหน้า คือ ผลการประชุมของสมาคมธนาคาร หลังนายกฯได้มีการขอพบเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ในกลุ่มเปราะบาง โดยหากมีมาตรการออกมาช่วยเหลือเพิ่มเติม จะช่วยลดภาระด้านการเงินบางส่วนให้ระบบเศรษฐกิจ แม้วานนี้ ธปท.จะยังยืนยันจุดยืนว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบัน 2.5% เป็นระดับที่เหมาะสมและการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง แม้จะมีผลช่วยลูกหนี้ในระยะสั้น แต่การก่อหนี้เพิ่ม ก็จะทำให้อัตราส่วนหนี้ต่อ GDP ปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะยาว อันจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงินและความเปราะบางของระบบเศรษฐกิจ พร้อมทั้งได้มีหนังสือที่ให้ความเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ตลาดยังจับตาความคืบหน้าในทิศทางนโยบายการเงิน/การคลังอย่างใกล้ชิด ในคืนนี้มีการประกาศตัวเลขผลประกอบการของบ.ในตลาดสหรัฐ ได้แก่ Alphabet Microsoft และ SVB เน้นจับตาเพื่อคาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐต่อ
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) ธ.กลางคงดอกเบี้ย: KTB, TTB, KBANK, BBL 2) ท่องเที่ยว+Spending : BA, CENTEL, ERW, MINT, SHR, CPALL CPAXT 3) เก็งงบ 1Q67: AMATA, SAPPE, BEM, BTG, GULF, THCOM, KCE และ 4) Selective : AP, SIRI, AMATA, PIN

ปัจจัยบวก

  • กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ไตรมาสแรกปี 2567 มีต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 178 ราย รวมเป็นเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 35,902 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐ
  • สมาคมตัวแทนจำหน่ายยานยนต์แห่งประเทศจีนเผยยอดจำหน่ายยานยนต์ใช้แล้วของจีน ในช่วง 1Q67 รวมอยู่ที่ราว 4.6 ล้านค้น เพิ่มขึ้น 7.62% y-y
  • ค่ายมือถือจีนอย่าง Xiaomi ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้มีความหวังว่าบริษัทจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้เร็วขึ้น
  • ชาวรัสเซีย เมียนมา และยูเครน หนีไฟสงคราม แห่ซื้อคอนโดฯ ไทยบ้านหลัง ที่ 2 เป็นบวกต่อภาคอสังหา
  • สมาคมผู้เลี้ยงหมูชี้ใกล้พ้นขาดทุนแล้ว หลังหมูขึ้นราคา 4 บาท/กก. แต่ราคาหมูไทยยังถือว่าถูกกว่ากัมพูชา-เวียดนามที่อยู่ที่ 85 บาท/กก.
  • ททท. ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยช่วง Golden week ของญี่ปุ่น และวันแรงงานจีน ราว 996,000 คน เพิ่มขึ้น 29% y-y

ปัจจัยลบ

  • ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยหอการค้าอเมริกันในประเทศจีนระบุว่า ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวลมากที่สุดสำหรับบริษัทอเมริกันที่ดำเนินธุรกิจในประเทศจีน
  • EU เปิดฉากตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ของจีน โดย EU พยายามหาแนวทางในการแก้ไขข้อกังวลที่ว่า นโยบายของจีนนั้นให้การสนับสนุนอย่างไม่เป็นธรรมกับบรรดาบริษัทซัพพลายเออร์ของจีน
  • สื่อท้องถิ่นของรัสเซียรายงานโดยอ้างอิงคำพูดของมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งระบุว่าการที่ NATO เตรียมทำการซ้อมรบใกล้ชายแดนรัสเซียนั้น จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความขัดแย้งทางทหาร
  • รายงานจาก S&P Global Ratings ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร ชี้ว่าเศรษฐกิจจีนที่ถูกชี้นำโดยรัฐ อาจกำลังสร้างเงื่อนไขให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรของบริษัทอีกครั้งซึ่งอาจเข้ามาในปีหน้า

PICKS OF THE DAY

SAPPE BUY

  • เป้าหมาย 98.00 / 100.00 แนวรับ 92.00
  • คาดเติบโตตามเป้า: บริษัทเผยผลประกอบการ 1Q67 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้า โดยยอดขายในประเทศเติบโตได้ดี ในช่วงฤดูร้อน ส่วนตลาดต่างประเทศก็เติบโตได้ตามเป้า โดยกลุ่มสินค้าโมกุ โมกุ ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง ทั้งนี้ สัดส่วนยอดขายยังคงมาจากต่างประเทศกว่า 80% และปีนี้ยังเดินหน้าในการออกสินค้าใหม่อีกกว่า 20 SKU พร้อมกันนี้ยังจะขยายช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยผลักดันยอดขาย ดังนั้น เชื่อว่าปีนี้ยอดขายจะเติบโต 20-25%
  • แรงหนุนจากสัญญาณฟื้นตัวของยุโรป: ทางฝ่ายมองจะได้แรงหนุนจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่ายุโรปเริ่มต้น 2Q67 ได้อย่างแข็งแกร่ง หลังยุโรปเผยดัชนี PMI รวมภาคบริการและการผลิตขั้นต้นปรับตัวขึ้นสู่ 51.4 ในเดือนเม.ย. จาก 50.3 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเหนือระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ทั้งนี้ การส่งออกไปยุโรปคิดเป็น 23.4% ของรายได้ SAPPE ในปี 2566

THCOM BUY

  • เป้าหมาย 13.20 / 13.70 แนวรับ 12.40
  • มองรายได้ 1Q67 มีโอกาสเติบโต q-q: จากลูกค้าที่ทยอยเพิ่มขึ้น หลังจากที่สิ้นงวดปี 66 ที่ผ่านมา บริษัทได้ลูกค้ารายสำคัญอย่าง Airbus, ขยายการบริการเช่าสัญญาณดาวเทียม Broadband ในฟิลิปปินส์, นอกจากนี้ยังได้พันธมิตรใหม่อย่าง Global Star ในการพัฒนาสถานีภาคพื้นสำหรับดาวเทียมวงโครจรต่ำ (LEO) นอกจากนี้ ทางบริษัทยังตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 10%
  • อัตราการใช้ดาวเทียมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น: อัตราการใช้ดาวเทียม สิ้นปี 66 อยู่ที่ 59% เพิ่มจากปี 65 ที่ 53% จากลูกค้าและพันธมิตรที่เพิ่มขึ้น ทางฝ่ายจึงคาดอัตราใช้ดาวเทียมปี 67 จะยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากแผนงานที่อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตกับรัฐบาลอินเดีย ขณะที่ดาวเทียม ไทยคม 10 แม้จะยังสร้างไม่เสร็จ แต่ได้สัญญาล่วงหน้าแล้วมากกว่า 50% ของ Capacity กับ Eutelsat 16 ปี จึงมอง Story พื้นฐานยังแข็งแกร่ง

 

- Advertisement -