ภาพรวมยังดูเป็นบวกกับตลาดหุ้น
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.1% ภาพรวมไร้ปัจจัยใหม่ นักลงทุนรอดูผลประกอบการที่จะทยอยรายงานออกมา ประกอบกับรับแรงกดดันเล็กน้อยจากการปรับขึ้นของ US Bond Yield ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.45% หลังนักลงทุนคลายกังวลกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐฯรายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพบว่าใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ พร้อมกับรายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลง 6.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ Bloomberg Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล ภายหลังจากทราบข้อมูลข้างต้นพบว่า US Bond Yield รุ่นอายุ 2 ปี ปรับลงเล็กน้อยแต่ปรับลง 2 วันติดต่อ พร้อมกับราคาทองคำที่ปรับลง ภาวะข้างต้นบ่งชี้ว่า นักลงทุนอยู่ในช่วงคลายกังวลมากขึ้นกับสถานการณ์ดอกเบี้ยและสงคราม ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้น สำหรับความเห็นจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักที่ FED จะคงดอกเบี้ยจนถึงการประชุมเดือน ก.ค. และเริ่มปรับลงในช่วงเดือน ก.ย. ด้วยโอกาส 46% ส่วนคืนนี้รอติดตามผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.14 แสนราย และ GDP 1Q24 Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.5%QoQ
ส่วนปัจจัยในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ๆนักลงทุนรอดูผลประกอบการ 1Q24 ที่จะทยอยประกาศออกมา รวมไปถึงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งยังไม่มีวันที่รายงานชัดเจนแต่เบื้องต้น Bloomberg Consensus ประเมินไว้ในช่วง 25 – 30 เม.ย. โดยคาดการณ์มูลค่าส่งออกจะขยายตัวติดลบ (-4%YoY) ขณะที่วานนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาเปิดเผย Monetary policy forum 1Q24 พบว่าแรงสนับสนุนของเศรษฐกิจไทยมาจากการบริโภคภาคเอกชน แต่การส่งออกและภาคผลิตรับแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ด้านเงินเฟ้อทรงตัวระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทาน และมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐส่วนภาวะการเงินดึงตัวขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็กบางกลุ่มและครัวเรือนรายได้น้อยแต่ภาวะการเงินไม่เป็นข้อจำกัดต่อเศรษฐกิจโดยรวม และกลไกสินเชื่อยังทำงานได้สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ มองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT) ท่องเที่ยว (AOT)
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1350 – 1370 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงมองบวกกับดัชนีระดับปัจจุบันจาก Valuation ที่น่าสนใจ แนะทยอยสะสมในหุ้นกลุ่มอิงในประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) เครื่องดื่ม (CBG OSP TACC)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 7.00 บาท)
ผลประกอบการของ TACC จะกลับมาสู่ช่วงขาขึ้นได้อีกครั้ง หลังจากได้รับผลดีจากการเปิดสาขาของ CPALL ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว นอกจากนี้ธุรกิจตัวแทนลิขสิทธิ์ในปี 24 จะรับรู้ผลดีจากลิขสิทธิ์ตัวละคร BellyGom และ Ohigenopon แบบเต็มปี โดยเราประเมินรายได้ในปี 24 เติบโต 11% มาอยู่ที่ 1,894 ล้านบาทและคาดกำไรสุทธิที่ 237 ล้านบาท (+15%YoY)
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.10 บาท)
เราคาดว่า 1Q24 TU จะมีกำไรสุทธิ 931 ล้านบาท (-9%YoY) และพลิกจากที่ขาดทุนกว่า 17,170 ล้านบาท ใน 4Q23 แต่ถ้าดูเฉพาะกำไรปกติจะโต 16%YOY เป็นผลจากกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ส่วนเทียบกับ 4Q23 จะลดลง 23%QoQ เพราะเป็นช่วง Low Seasons ของธุรกิจอาหารแช่แข็ง