วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,360 / 1,355 แนวต้าน 1,370 / 1,375
ผลการประชุม FOMC เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด คงอัตราดอกเบี้ย 5.50% ต่อไป และส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยยาวนานกว่าที่ตลาดคาดและจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. และเริ่มลดวงเงินในการทำ QT ลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองว่าเป็นการเริ่มเพิ่มสภาพคล่องส่วนเกินเข้าตลาดหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ในระยะถัดไป อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI. ปรับตัวลงแรงคาดจะกดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้บ้าง สำหรับปัจจัยภายในประเทศติดตามการประกาศงบ 1Q’67 ต่อ
Our View? “ย่อก่อน.. ไปต่อที่หลัง”
คาดตลาดวันนี้ “sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,360 / 1,355 และแนวต้านที่บริเวณ 1,370 / 1,375 เมื่อคืนนี้ผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ออกมาคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.50% ต่อไปตามที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม คุณเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ได้ออกมาส่งสัญญาณ FED อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปยาวนานกว่าที่ตลาดคาด โดยในช่วงก่อนการประชุมตลาดคาดการณ์ผ่านทาง CME FED Watch Tools ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในช่วง 3Q-4Q’67 ขณะที่ล่าสุดคาดว่ามีโอกาสปรับลดลงครั้งเดียวในช่วงเดือน พ.ย. 67 จากทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและการจ้างงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง พร้อมทั้ง FED ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเงินเฟ้อยังไม่ได้ปรับตัวลงตามที่เป้าหมายของ FED อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้เราคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจและจะเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่อ คือการที่คุณเจอโรม กล่าวว่า FED ไม่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือน มิ.ย.นี้ ขณะที่ FED จะเริ่มปรับลดวงเงินในการปล่อยให้พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐหมดอายุลง โดยไม่มีการซื้อคืน (QT) เหลือเพียง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากก่อนหน้าที่ระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่วงเงิน QT สำหรับตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) จะอยู่ที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เรามองว่าประเด็นดังกล่าวถือเป็น ก้าวแรกในการเริ่มกลับมาเพิ่มสภาพคล่องส่วนเกินเข้าสู่ตลาด คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) ให้เริ่มวกตัวลงแล้วตามที่เราคาดไว้ก่อนหน้า สะท้อนการเปิดรับความเสี่ยงที่มากขึ้นของตลาด หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงแรงปิดที่ระดับ 79.00 ดอลลาร์/บาร์เรล -2.93 ดอลลาร์ (-3.58%) เมื่อคืนนี้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ออกมาเพิ่มขึ้น 7.2 ล้านบาร์เรล สวนทางจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สะท้อนถึงอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลง ขณะที่การรายงานตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐโดย ISM ออกมาปรับตัวลงสู่ระดับ 49.2 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำกว่าระดับ 50.0 บ่งชี้ภาวะการหดตัวลงของภาคการผลิตสหรัฐซึ่งส่งผลถึงคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามองไม่มีปัจจัยใหม่เข้าหนุนทิศทางตลาด โดยให้ความสำคัญไปกับการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดฯ รายตัวต่อไป อย่างไรก็ตามเรายังมอง Downside ของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างจำกัด จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ออกมาตรการกำกับดูแลการ Short-Sell และ Program Trading เพิ่มเติมให้เข้มงวดมากขึ้น โดยให้ทำ Uptick กับหุ้นทุกตัว ส่งผลให้การทำ Short Sell ต้องกำหนดราคาสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย จากปัจจุบันให้ Short Sell ได้ที่ราคาเท่ากับหรือสูงกว่า (Zero-plus Tick) หากราคาซื้อขายล่าสุด (Last Trading Price) ส่งผลให้เล่นฝั่ง Short ไม่ความได้เปรียบ น้อยลงคาดจะส่งผลให้ผู้เล่นฝั่ง Short อาจลด Position และระมัดระวังการเปิดสถานะใหม่และจำกัด Downside ของตลาดได้บ้าง
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “CPAXT”
- นักวิเคราะห์ของเราคาดกำไรปกติ 1Q’67 อาจย่อตัวลงบ้าง QoQ จากปัจจัยเชิงฤดูกาล แต่คาดจะเติบโต +19.4% YoY จากยอดขายที่ดีขึ้นของแม็กโครและโลตัส โดย SSSG แม็กโคร +3-5%YoY ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากค่าไฟเดือน ม.ค. – เม.ย. ลดลง 22%YoY และดอกเบี้ย จ่ายลดลงต่อเนื่อง คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้
- ทางเทคนิค ราคายกจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นขึ้นประชิดแนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลงระยะสั้น-กลาง ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO วกตัวขึ้น
- แนะนำ “ซื้อเล่นรอบ”
- แนวรับ 32.00 / 31.00 Target 36.00 / 39.00 Stop <29.75