วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,370 / 1,365 แนวต้าน 1,380 / 1,384
มองประเด็นบวกจากแรงหนุนคาดการณ์ FED ลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย. อาจเริ่มแผ่วลงไปบ้าง ขณะที่ Dollar Index และ US Bond Yield เริ่มฟื้นตัวขึ้นกระตุ้นแรงขายทำกำไรทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตาม วันนี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าจีน คาดจะพลิกกลับมาขยายตัวอีกครั้ง
Our View? “พักก่อน..”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1370 / 1,365 และแนวต้านที่บริเวณ 1,380 / 1,384 เรายังคงมองตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการฟื้นปรับตัวขึ้นต่อ โดยตลาดในแต่ละประเทศ ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขามินเนอาโพลิส แสดงความคิดเห็นมีความเป็นไปได้ที่ FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันต่อไปจนกว่าจะเห็นสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับลดลงสู่กรอบเป้าหมายที่ระดับ 2.0% หรือตลาดแรงงานอ่อนแอลง ขณะที่ประธาน FED สาขาบอสตันมองว่านโยบายทางการเงินของ FED ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมที่จะช่วยให้เงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายสะท้อนแนวโน้มที่ FED ยังมีโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาการเคลื่อนไหวของตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเช้านี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี เริ่มพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นบ้างแล้วหลังอ่อนตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาเช้านี้อยู่ที่ระดับ 4.50%+/- พร้อมค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) ฟื้นตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 105.5+/- สะท้อนการเปิดรับความเสี่ยงที่ลดลงของตลาด คาดเป็นปัจจัยจำกัด Upside ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้
ขณะที่เช้านี้เรายังแนะนำติดตามการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าของจีนเดือน เม.ย. คาดจะพลิกกลับมาขยายตัวอีกครั้งที่ระดับ 1.3% และ 4.7% ตามลำดับ จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวลง -7.5% และ -1.9% ตามลำดับ หากออกมาตามหรือดีกว่าที่ตลาดคาดจะสะท้อนทิศทางการค้าและเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นมองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นจีน-และภูมิภาคได้
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. แกว่งตัวผันผวนเมื่อคืนนี้ปิดที่ระดับ 78.99 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.61 ดอลลาร์ (+0.78%) ได้รับแรงหนุนจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่ตลาดคาด จากคาดการณ์โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไปคาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวได้บ้างในระยะสั้น
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังส่งสัญญาณถึงโอกาสในการนำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมามองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง อย่างไรก็ตามเรามองยังต้องติดตามรายละเอียดรวมถึงความเร็วในการกลับมาใช้กองทุนดังกล่าวว่าจะใช้ระยะเวลามากน้อยเพียงใด คาดจะจำกัด Downside ของตลาดได้บ้าง ทั้งนี้เรายังแนะนำติดตามการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดได้ต่อ ขณะที่เรายังมีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั้งประเทศในช่วงเดือน ต.ค. เรามองเป็นทั้งปัจจัยบวกและลบต่อตลาด โดยคาดจะเป็นปัจจัยเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านแรงงานต่อ บจ. ที่มีสัดส่วนแรงงานมาก อาทิ รับเหมา-ก่อสร้าง และอุตสาหกรรมต่างๆ บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC และ CRC) รวมถึงหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, CBG, SAPPE, ICHI และ TACC) จากกำลังซื้อที่จะเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามคาดตลาดจะให้ความสำคัญไปกับการรายงานผลประกอบการของ บจ. ในตลาดฯ รายตัวต่อไป
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “OSP”
- นักวิเคราะห์เราคาดกำไรปกติ 1Q’67 จะออกมาที่ระดับ 897 ล้านบาท ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า +87.6%YoY/ +51.6QoQ คาดยอดขายจะปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากยอดขายในเมียนมาดีขึ้นหลังคู่แข่งถูกจำกัดการขนส่งไปเมียนมา
- ทางเทคนิค ราคาย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่ EMA25 วัน แล้วพยายามฟื้นตัวขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD ยังอ่อนกำลังอยู่ แต่ SSTO พยายามฟื้นตัวขึ้น
- แนะนำ “ซื้อสะสม”
- แนวรับ 20.70 / 20.50 Target 22.00 / 23.20 Stop <20.40