บล.พาย:

AAV: Asia Aviation PCL

1Q24 กำไรปกติทะลุ 1,600 ล้านบาท

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 1Q24 ที่มีกำไรปกติสูงถึง 1,600 ล้านบาท ได้รับผลดีจากการเดินทางที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดในประเทศที่ทาง AAV มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 40% ขณะที่เส้นทางระหว่างประเทศกลับมาใกล้เคียงปี 19 มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดประเทศจีน ภาพรวมในช่วง 2Q24 คาดผลประกอบการจะยังเห็นการเติบโตได้จากปีก่อน ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและราคาค่าตั๋วโดยสารที่ยังอยู่ในระดับสูง (แต่อาจจะลดลงเล็กน้อยจาก 1Q24 ซึ่งเป็นผลตามฤดูกาล ทั้งนี้เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิมที่ 1,542 ล้านบาท เพราะยังมีความเสี่ยงจากช่วง 3Q24 ที่จะเป็นช่วง Low Seasons ของธุรกิจ

1Q24 ขาดทุน 409 ล้านบาท แต่มาจากอัตราแลกเปลี่ยน

  • AAV รายงานขาดทุนที่ 409 ล้านบาท ไม่รวมรายการพิเศษอย่างขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 2,049 ล้านบาทและขาดทุนด้านเครดิตอีก 34 ล้านบาท จะมีกำไรปกติ 1,675 ล้านบาท ได้รับผลดีจากจำนวนผู้โดยสารที่สูงถึง 5.5 ล้านคน (+19%YoY, +7%QoQ) และค่าโดยสารที่ยังเพิ่มขึ้นได้อีกมาอยู่ที่ 2,109 บาท/คน (+33%YoY, +4%QoQ) เติบโตทั้งเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศ
  • รายได้ที่ 13,794 ล้านบาท (+52%YoY, +11%QoQ) นอกเหนือจากจำนวนผู้โดยสารและราคาตั๋วเครื่องบินแล้ว ในส่วนรายได้ค่าบริการเสริม (Ancillary income) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 2,324 ล้านบาท (+28%YoY, +10%QoQ) หรือเฉลี่ยที่ 426 บาท/คน/เส้นทาง (+7%YoY, +2%QoQ)
  • กำไรขั้นต้นที่ 18.5% ดีขึ้นจาก 13% ใน 1Q23 และ 17.8% ใน 4Q23 สูงสุดนับตั้งแต่ 1Q18 ได้รับผลดีจากค่าโดยสารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 608 ล้านบาท (-10%YoY, -17%QoQ)
    ลดลงในกลุ่มของค่าใช้จ่ายในการขาย
  • ดอกเบี้ยจ่ายที่ 630 ล้านบาท (+28%YoY, -3%QoQ) ขณที่ภาษีรับรู้เป็นรายได้ที่ 128 ล้านบาท จากภาษีจ่าย 140 ล้านบาทใน 1Q23 และ 638 ล้านบาทใน 4Q23

2Q24 อาจชะลอบ้างจาก 1Q24 ตามฤดูกาล

แนวโน้มช่วง 2Q24 เทียบกับ 1Q24 คาดเห็นผู้โดยสารลดลงเล็กน้อยจากผลตามฤดูกาล ส่วนเทียบกับปีก่อนยังเติบโตได้ดี จากกผู้โดยสารและค่าโดยสารที่ยังคงทรงตัวในระดับสูงได้ สำหรับเส้นทางต่างประเทศนอกเหนือจากจีนที่ฟื้นตัวจากผลดีของการเปิดฟรีวีซ่าแล้ว ทาง AAV ยังได้รับผลดีจากการที่ไทยได้รับโควต้าจำนวนที่นั่งเข้าไปยังประเทศ อินเดียเพิ่มอีก 7,000 ที่นั่ง/สัปดาห์ (ประมาณ 17% จากปัจจุบัน)

สำหรับแผนการรับเครื่องบินใหม่ในปีนี้ยังตามแผนเดิมคือรับเพิ่ม 4 ลำ แบ่งเป็น A321 3 ลำ โดยลำแรกจะมาในเดือน มิ.ย. ที่เหลือช่วง 2H24 อีก 1 ลำเป็น A320)

คงประมาณการและคำแนะนำ “ซื้อ”

แม้กำไรในช่วง 1Q24 จะออกมาดี แต่ด้วยการมีช่วง Low Seasons ในช่วง 3Q24 ที่อาจจะไม่ดีนัก เราจึงคงประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 1,542 ล้านบาท เท่าเดิม และจากผลประกอบการที่ออกมาดี เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 3.42 บาท (11.6XEV/EBITDA’24E)

- Advertisement -