บล.กรุงศรีฯ:  

KSS Strategist Comment : IRPC Update มุมมอง Neutral จาก analyst meeting

🔸ผู้บริหารคาดหวังโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) ที่ COD ไปเมื่อ เม.ย. 24 จะเข้ามาเพิ่มสัดส่วนดีเซลยูโร5 เป็นเท่าตัว เพิ่มโอกาสในการเจาะตลาดภายในประเทศ และลดการใช้น้ำมันดิบที่มีราคาแพงได้ คาดหวังกำไรส่วนเพิ่มราว 1,000 – 2,000 ลบ./ปี

🔸มองทิศทาง spread ปิโตรเลียมลดลงใน 2Q24 จากแรงกดดันจากขา supply ของจีนที่ประกาศโควต้าส่งออก 2nd batch รวมถึงกำลังการผลิตใหม่ที่ COD ทั่วโลก แต่จะฟื้นตัวใน 3Q24 หนุนโดย U.S. driving season มอง spread Gasoil/ Gasoline/ HSFO อยู่ในช่วง 17-21/ 15-19/ -9 ถึง -5 $/bbl ใน 2Q-3Q24 ตามลำดับ Vs. 1Q24 23.1/ 12.6/ -11.0 $/bbl

🔸บริษัทตั้งเป้าปิโตรเคมีจะมุ่งสู่ specialty product มากขึ้น โดยเฉพาะสาย PP และ PE คาดหวังราคาขายที่ premium มากขึ้นตามคุณสมบัติ ได้แก่ ท่อความยืดหยุ่นสูงทนต่อการแตกหัก (PE) ที่ตั้งเป้าออกขายช่วง 2Q-3Q24 คาดหวังปริมาณขายราว 7,600 ตัน/ปี ใน 2024 และ 40,000 ตัน/ปี ใน 2029 (ปี 2029 คาดหวังสัดส่วน sprecialty productd กว่า 60% vs. เป้า 2024 ที่ 38%) คาดหวังกำไรส่วนเพิ่ม 800 – 1,500 ลบ./ปี

🔸มอง 2Q-3Q24 spread ปิโตรเคมีหลักอย่าง PP และ PE ยังมีแรงกดดันจากกำลังการผลิตใหม่ และความไม่แน่นอนของอสังหาฯจีน (demand การก่อสร้าง) ประเมิน product spread PP/PE ในช่วงดังกล่าวราว 300-350/ 370-420 $/ton ทั้งนี้บริษัทคาด ABS ที่ความต้องการใช้อุตสาหกรรมรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในจีน กำลังเติบโต และส่งให้ spread ฟื้นต่อเนื่อง 780-830 $/ton Vs. 1Q24 618 $/ton จะเป็นตัวเข้ามาชดเชย 

🔸ปรับแผนปิดซ่อมเล็กน้อย โดยเพิ่ม commercial shutdown ของ PP จาก 14 วันเป็น 24 วัน และ ABS/SAN จาก 74 วัน เป็น 110 วัน

↔️Earning outlook เรามอง Neutral จากข้อมูลในที่ประชุมนักวิเคราะห์ โดยแผนกลยุทธ์ของบริษัททั้งในส่วนของโรงกลั่น และปิโตรเคมี มีความชัดเจนมากขึ้น แต่ไม่ได้เปลี่ยน direction ที่จะไปผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ผ่านโครงการ UCF และ ปิโตรเคมีหลักอย่าง PP/PE/ABS ทั้งนี้แนวโน้มค่าการกลั่นที่อ่อนตัวใน 2Q24F จาก supply ใหม่ น่าจะไม่ได้เหนือกว่าความคาดหมายของตลาดแล้ว

🤔คงมุมมอง 2Q24F พลิกกลับมาขาดทุนปกติราว -637 ลบ. ฟื้น y-y แต่แย่ลง q-q โดย y-y ฟื้นเพราะ stock loss น้อยลง และธุรกิจปิโตรเคมีฟื้นตัวจากฝั่ง ABS/ PS ตาม demand จีน คาด contribution GIM ราว 3.5 $/bbl (+108% y-y, +100% q-q) แต่การพลิกขาดทุน q-q เพราะ ไม่มี stock gain ก้อนใหญ่มาหนุน และ คาดค่าการกลั่นลดเหลือ 3.2 $/bbl -52% q-q จาก supply ใหม่เข้ามามาก ฉุด spread gasoil -22% q-q ทำให้กำไรธุรกิจปิโตรเคมีไม่พอจะกลบต้นทุนคงที่ (เรามองการฟื้นตัวเร็วของ ABS ก็ยังไม่พอชดเชยค่าการกลั่นได้)

🌸KSS คงคำแนะนำ Trading Buy TP24F: 2.2 บาท/หุ้น คงมุมมองเป็นตัวเลือกเก็งกำไร บนการฟื้นตัวเร็วของ ABS spread (2QTD 758 $/ton +22% q-q) และการฟื้นตัวของ PP ในช่วง 2H24F ที่หากฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาดจะมีโอกาสกลับมาทำกำไร ในขณะที่ PBV ปัจจุบันราว 0.5 เท่า น่าจะสะท้อนความกังวลของตลาดต่อสภาวะขาดทุนของ IRPC ไปมากแล้ว มองจุดน่าสนใจที่ IRPC ควรถูกให้ valuation ดีขึ้น คือ spread HDPE/ PP/ ABS ที่ระดับ 600/ 580/ 900 $/ton เมื่อรวมกับค่าการกลั่นจะอยู่ที่ระดับปกติ 4-5 $/bbl จะพอชดเชยต้นทุนคงที่และมีกำไรได้

- Advertisement -