นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC

BGC มาตามนัด!! Q1 กำไรโต 29% รับทรัพย์ “ไพร์ม แพ็คเกจจิ้ง” บอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.07 บาท/หุ้น ชูกลยุทธ์การเติบโตด้วย Total Packaging Solutions ให้บริการบรรจุภัณฑ์ครบวงจร

BGC ผลงานมาตามนัด!!! โค้งแรกปี 2567 ฟอร์มสวย โกยกำไรสุทธิอยู่ที่ 97 ลบ. โต 29% หลังต้นทุนวัตถุดิบ – พลังงาน ลดลง มีรายได้จากการขาย 3,789 ลบ. เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา บอร์ดเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.07 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 28 พ.ค. 2567จ่ายปันผล 14 มิถุนายน 2567 นี้  “ศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร” แม่ทัพใหญ่ ส่งซิกปี 2567 ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่อง จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ชูอัตรากำไรขั้นต้นที่ 15% รับรู้รายได้ “ไพร์ม แพ็คเกจจิ้ง”

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วและบรรจุภัณฑ์อื่นรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินของบริษัทในงวดไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายในงวดไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 3,789 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขาย 3,814 ล้านบาท โดยมีผลงานที่โดดเด่นจากการขายของธุรกิจบรรจุภัณฑ์อื่น จำนวน 765 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 233 ล้านบาท หรือ 44% หลัง BGC เข้าถือหุ้น 75% ในบริษัท ไพร์ม แพ็คเกจจิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนและม้วนฟิล์ม ในไตรมาส 2 ปี 2566 และธุรกิจซื้อมาขายไปบรรจุภัณฑ์พลาสติก (Trading)  หนุนรายได้จากการขายของธุรกิจบรรจุภัณฑ์อื่นเพิ่มขึ้น

ในงวดไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ผลดีจากต้นทุนวัตถุดิบ เช่น โซดาแอช เม็ดพลาสติก ฟิล์ม และกระดาษคราฟท์ รวมทั้งอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้มีการบริหารจัดการต้นทุน โดยมุ่งเน้นทำ  cost optimization และปรับสูตรการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วย ปรับใช้พลังงานทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงรุก

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินในช่วงไตรมาส 2/2567 คาดได้รับปัจจัยบวกจากราคาวัตถุดิบ โดยเฉพาะ Soda Ash และราคาก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มลดลง หลังกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของแหล่งก๊าซเอราวัณ รวมถึงการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติในประเทศ (Single Pool)

โดยแผนธุรกิจปีนี้ บริษัทฯ มีการคัดเลือกผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่ดี เน้นให้ความสำคัญในการขยายตลาดส่งออก และการหาลูกค้าใหม่ พร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าและพฤติกรรมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เปลี่ยนไปในอนาคต

สำหรับการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนการซ่อมแซมเตาหลอมแก้วแบบเย็น (Cold repair) ที่โรงงานจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อรองรับโอกาสจากเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว สำหรับธุรกิจใหม่จากการควบรวมกิจการยังคงพิจารณาอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับกลยุทธ์ของธุรกิจในระยะยาว เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสเติบโตของกลุ่มบริษัท

“BGC พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์การเติบโตด้วย Total Packaging Solutions ที่ให้บริการบรรจุภัณฑ์กับลูกค้าอย่างครบวงจร เราไม่เพียงแค่รับผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว แต่ยังนำเสนอบริการอื่นให้แก่ลูกค้าเพื่อเลือกซื้อฉลากหรือบรรจุภัณฑ์อื่นด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเราจะเป็น One Stop Service ให้กับลูกค้า นอกจากนี้ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจและสร้าง New S-Curve บริษัทยังได้มีการลงทุนในธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท บางกอกแคน แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ราว 5% เพื่อเข้าไปเรียนรู้ และหากมีโอกาสที่เหมาะสมก็จะพิจารณาซื้อหุ้นเพิ่มได้” นายศิลปรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น และสะท้อนความเชื่อมั่นการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท สำหรับผลการดำเนินงานในงวดวันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 28 พฤษภาคม 2567 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่  14 มิถุนายน 2567

- Advertisement -