นางสาวพชนัน สิงห์ภู่ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีการเงิน บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF)

ECF เผย Q1/67 รายได้ 386.45 ล้านบาท โต 20.92% เดินหน้าดันยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ต่อยอดการเติบโต

ECF เผยผลประกอบการ Q1/67 รายได้รวม 386.45 ล้านบาท โต 20.92% แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/67 โตต่อเนื่อง เดินหน้าขยายตลาดเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ ยอดขายต่างประเทศมีสัญญาณฟื้นตัวดี ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มจากกลุ่มประเทศ ญี่ปุ่น อินเดีย ฟิลิปปินส์

นางสาวพชนัน สิงห์ภู่ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีการเงิน บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดไม้เอ็มดีเอฟแบบประกอบด้วยตนเอง เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึง ผลประกอบการไตรมาส 1/67 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 386.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวของปีก่อนที่มีรายได้รวม 319.58 ล้านบาท จำนวน 66.87 ล้านบาท หรือ 20.92% และมีขาดทุนส่วนของบริษัทใหญ่เท่ากับ 16.85 ล้านบาท คิดเป็นผลขาดทุนร้อยละ 4.36 ซึ่งเริ่มปรับลดลงเมื่อเทียบกับรอบปี 2566 ที่มีผลขาดทุนดังกล่าวเท่ากับร้อยละ 10.19

ผลประกอบการในส่วนของรายได้รวม เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากรายได้การจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทั้งในและต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศ 62% และส่งออก 38% ซึ่งไตรมาสแรกที่ผ่านมารายได้จากการขายในประเทศเติบโต 28% และรายได้ส่งออกเติบโต 10% อย่างไรก็ตามบริษัทมีผลขาดทุนเนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ที่ยังคงส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายในการผลิต และซ่อมแซมโรงงาน อีกทั้ง ต้นทุนการจ้างผลิต เพื่อซื้อสินค้าทดแทน ค่าใช้จ่ายในการขายที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากการชำระคืนหุ้นกู้ ทั้งนี้ ในส่วนของค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารเริ่มปรับลดลงแล้วจากสาเหตุของการใช้นโยบายควบคุม เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร

สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/67 บริษัทมุ่งเน้นขยายตลาดและช่องทางการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทั้งในและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศยังคงมีสัญญาณการเติบโตที่ดี ปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจภาคบริการ ภาคท่องเที่ยว และภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อความต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น

ส่วนตลาดต่างประเทศ ยอดขายมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศกลับมาอีกครั้งนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าประเทศญี่ปุ่น อินเดีย ฟิลิปปินส์ คำสั่งซื้อทยอยเข้ามาต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย

 

- Advertisement -