TCMC เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2567 รายได้รวม 1.59 พันล้านบาท คาดไตรมาส 2 เติบโตตามสถานการณ์ตลาดที่ฟื้นตัว
ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน (TCM Corporation) หรือ TCMC เผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ทำรายได้รวมกว่า 1.5 พันล้านบาท แม้ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในยุโรปซบเซา แต่บริษัทยังคงมีลูกค้าประจำต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มธุรกิจวัสดุตกแต่งพื้นผิวบริษัทได้มีการปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องกับตลาด แม้จะอยู่ในช่วง Low Season ของธุรกิจ ด้านกลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะเติบโตสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นต่อเนื่อง คาดไตรมาส 2 ปี 2567 เติบโตตามสถานการณ์ตลาดที่ฟื้นตัว
นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TCMC) เปิดเผยว่า บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (เรียกรวมกันว่า “กลุ่มบริษัท”) มีรายได้จากการขายและบริการในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 จำนวน 1,590.89 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,999.30 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.43 ทั้งนี้สำหรับ EBITDA จำนวน 30.44 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 77.61 และมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 82.99 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 11.32 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่แรกของปี แม้สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกจะถดถอย ทั้งในเงินเฟ้อ ค่าพลังงาน ค่าแรง และการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นทั้งหมด แต่ทว่า TCMC ได้มีการบริหารจัดการที่ดี โดยกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ (TCM Living) แม้จะมีสัดส่วนของรายได้ที่คิดเป็นร้อยละ 55.64 ซึ่งลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีสัดส่วนร้อยละ 63.90 ของรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด โดยปัจจัยหลักที่สำคัญมาจากตลาดเฟอร์นิเจอร์ในยุโรปเกิดการชะลอตัว แต่บริษัทยังคงมีฐานลูกค้าประจำต่อเนื่อง” นางสาวปิยพร กล่าวเสริม
ด้านกลุ่มธุรกิจกลุ่มธุรกิจวัสดุ (TCM Surface) แม้ในไตรมาสที่ผ่านมาจะเป็นช่วง Low Season ของกลุ่มธุรกิจ และได้รับผลกระทบจากค่าขนส่ง ค่าแรง และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากสภาพตลาด แต่บริษัทได้มีการปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องกัน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มธุรกิจสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ร้อยละ 39.79 ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญจากการฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยวและโรงแรมซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของธุรกิจ
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังทางบริษัทวางแผนกระตุ้นยอดขายโดยการออกงานโชว์ต่างๆ การเดินสายโปรโมทผลิตภัณฑ์อคูสติก รวมถึงฝ่ายขายในต่างประเทศเริ่มออกเดินทางหาลูกค้ามากขึ้น โดยคาดหวังคำสั่งซื้อเข้ามาช่วงครึ่งหลังของปีขณะที่กลุ่มธุรกิจพรมและผ้าหุ้มเบาะรถยนต์ (TCM Automotive) ยังทรงตัวรายได้ลดลงร้อยละ 3.71 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยอ่อนตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากการปล่อยสินเชื่อรถกระบะลดลง แต่ในทางกลับกันกลุ่มธุรกิจดังกล่าวยังสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีขึ้น โดยมาจากการปรับปรุงพัฒนาด้านประสิทธิภาพการผลิต การปรับลดต้นทุนในทุกด้าน และจากการขายสินค้ากลุ่มที่มีอัตรากำไรสูงในสัดส่วนที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของสภาพคล่องทางการเงินของกลุ่มบริษัทโดยรวมยังอยู่ในสภาพที่ดี ซึ่งในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 กลุ่มบริษัทมีรายได้อื่นจำนวน 1.24 ล้านบาท เป็นรายได้จากดอกเบี้ยรับ ค่าเช่า ค่าขายสินทรัพย์ เศษซาก ฯลฯ เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีอยู่ที่ 3.12 ล้านบาท และใน Q1/2567 นี้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 27.51 ล้านบาท จากการจองซื้ออัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าของกลุ่มธุรกิจ TCM Surface “เราเชื่อมั่นว่าในปี 2567 จะยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดและส่วนแบ่งทางการตลาดตลอดจนศึกษาและมองหาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจใหม่ รวมถึงการขับเคลื่อนองค์ไปสู่ความยั่งยืนผ่านโครงการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา โดยได้กำหนดเป้าหมายการเป็นองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจก สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ภายในปี ค.ศ.2050 หรือ พ.ศ.2593 เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโตและก้าวสู่การเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับทุกห่วงโซอุปทานทางธุรกิจอย่างรอบด้านที่ยั่งยืน” นางสาวปิยพร กล่าวทิ้งท้าย