Our View? “ยังรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,365 / 1,370 และแนวต้านที่บริเวณ 1,385 / 1,390 โดยตลาดเมื่อวานนี้อ่อนตัวลง หลังรับรู้การประกาศตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 1/67 ของไทยอยู่ที่ 1.5% จากตัวเลข ส่งออกที่แย่กว่าคาดอยู่ที่ -2% ส่วนการลงทุนภาครัฐลดลงถึง 28% ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนฟื้น ตัวดีกว่าคาด อยู่ที่ +6.9% นอกจากนี้ สศช. ยังปรับลดคาดการณ์การขยายตัว GDP ไทยในปี 2567 ลงเป็น 2.5% จาก 2.7% แต่คาดหวังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ในช่วง 2H/67 หลังจากงบประมาณภาครัฐเบิกใช้

ด้านตลาดต่างประเทศ ดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ลดลง 197 จุด จากประเด็น CEO ของ J.P.Morgan จะเกษียณอายุเร็วกว่ากำหนด ในขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยตลาดรอการประกาศผลการดำเนินงานของ NVIDIA ในวันพุธนี้ นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 63% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมเดือน ก.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดชื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน เม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนขณะที่อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปีเริ่มฟื้นตัวขึ้นเริ่มดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 4.4-4.5%สะท้อนความคาดหวังว่าการปรับดอกเบี้ยลงของเฟดที่ยังมีความไม่แน่นอน

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนนี้ปิดที่ 79.80 USD/bbl ลดลง 0.26 USD/bbl โดยตลาดน้ำมันไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนของอิหร่านและชาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ หลังจากมีรายงานว่านาย อิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ถึงแก่อสัญกรรมจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก รวมทั้งข่าวเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งชาอุดีอาระเบียได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการเดินทางเยือนญี่ปุ่น เนื่องจากการประชวรของกษัตริย์ชาอุดีอาระเบียผู้เป็นพระราชบิดา นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสในวันที่ 1 มิ.ย. โดยคาดว่าที่ประชุมยังคงมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปในครึ่งปีหลัง

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามองยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานผลประกอบการ 1Q’67 ส่วนใหญ่ของ บจ. ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ คาดจะเป็นปัจจัยให้นักวิเคราะห์อาจปรับเพิ่มประมาณการ EPS SET Index ได้บ้าง โดยล่าสุด Bloomberg Consensus คาดการณ์ EPS 93.6 ขณะที่เรามองระดับ SET Index ที่ปัจจุบันที่คาดการณ์ EPS ของ SET Index ที่ 93.0 – 96.0 บาท ซื้อขายอยู่ที่ราว 15.0 เท่า+/- อยู่ที่ระดับ -1 S.D. ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ระดับ 18.0 เท่า ทำให้ SET Index มี Downside Risk ที่จำกัด ขณะที่เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังส่งสัญญาณถึงโอกาสในการนำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมา มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง คาดจะเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ ในช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย. มองเป็นปัจจัยจำกัด Downside ของตลาดเพิ่มเติม

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หลักทรัพย์แนะนำวันนี้

“PTTEP” ตั้งเป้าการผลิตในปี 2567 ไว้ที่ 509 kboed เพิ่มขึ้น 10% yoy จาก (1) การเพิ่มปริมาณผลิตแหล่งเอราวัณ (G1/61) ปริมาณผลิตเพิ่มขึ้นไปที่ 800 mmscfd แล้วตามสัญญา PSC ภายในเดือน มี.ค. 2567 และ นอกจากนี้ PTTEP ยังให้ความสำคัญในการสำรวจและผลิตในโครงการอาทิตย์, โครงการ CT4, โครงการ S1 และโครงการผลิตในมาเลเชีย ผลการดำเนินงานมั่นคงสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง คาดเงินปันผลทั้งปี 2567 Dividend Yield ที่ 6.1%

- Advertisement -