Daily Focus: Selective Play
2024 SET Target : 1470
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบกว้างขึ้น โดยเปิดบวกได้ค่อนข้าง ดีหลังจาก GDP 1Q24 ของไทยออกมาดีกว่าคาด แต่ดัชนีเผชิญแรงขายกดดันให้ย้อนลงมาปิดลบ 3.98 จุด ที่ระดับ 1378.70 จุด ส่วนมูลค่าการซื้อขายขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.4 หมื่นลบ. กลุ่มพลังงานประคองตลาด นำโดย BANPU PTT PTTEP สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีกบางๆ 55 ลบ. และ 105 ลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติพลิกมา Short Index Futures ราว 9.5 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,370-1,385 จุด โดยมูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะไม่หนาแน่นนัก เนื่องจากเข้าช่วงวันหยุดกลางสัปดาห์ รวมถึงมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้ง Comment ของประธาน FED หลายสาขาคืนนี้ รายงานการประชุม FED และผลการดำเนินงานของ NVIDIA คืนวันพูธ ส่วนปัจจัยในประเทศมีประเด็นการเมืองที่ Overhang ระยะสั้น โดยในวันพฤหัสฯ ที่ 23 พ.ค. ต้องติดตามว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องจากสว.วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา ทวีสิน และคุณพิชิต ชื่นบาน หรือไม่ โดยหากรับคำร้องและมีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจะเป็นปัจจัยกดดันต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะสั้น ส่วนภาพระยะกลาง-ยาว เรายังคงมุมมองค่อนไปในเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจและกำไรบจ.ของไทยที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นหลังประกาสตัวเลข 1Q24 ออกมาดีกว่าคาดทั้งคู่ ทำให้เรายังคงมุมมองว่า SET Index น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและทยอยฟื้นตัวขึ้น โดยคาดหวังเห็นเม็ดเงินต่างชาติกลับมาไหลเข้าบ้างหลังขายสุทธิหนักตั้งแต่ปีก่อน กลยุทธ์ยังแนะนำถือลงทุนต่อเนื่องและเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว มีแนวโน้มกำไรโดดเด่นกว่าตลาด เรายังมองกลุ่ม Domestic Play ยังน่าสนใจจากอานิสงส์เชิงบวกของทิศทางเศรษฐกิจไทยที่จะทยอยเร่งตัวใน 2024-2H24 1,350+- ยังถือลงทุน
หุ้นเด่นเดือน พ.ค.: BDMS, CPALL, ITC, NSL, TU
FSSIA Portfolio: AOT, BDMS, CPALL, CPN, GPSC, NSL, SHR, SJWD, TIDLOR and TU
หุ้นเด่น Finansia 21 พ.ค. 24 : SAPPE
- แนะนำ “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 115 บาท
- เราคาดรายได้และกำไร 2Q24 จะเดินหน้าทำ New High เบื้องต้นคาดโต 20-25% จากทั้งปัจจัยฤดูกาลในประเทศที่อากาศร้อน และโดยเฉพาะการส่งออกทั้งยุโรป รวมถึงตะวันออกกลาง ขณะที่ Margin คาดยังยืนในโซนสูงจากมาตรการคุมต้นทุนแม้จะมีผลกระทบจากค่าเสื่อมฯที่เพิ่มขึ้น
- เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2024 ขึ้น 6% เป็น 1.4 พันลบ. +32% y-y จาก Margin ที่ดูดีกว่าคาด ผู้บริหารยังคงเป้ารายได้เชิงรุกแตะ 1 หมื่นลบ.ภายในปี 2026 ยังคงเป็น Growth Stock ที่เราชอบ
- แนวรับ 100-99//96 บาท แนวต้าน 105-106.50 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาคสุทธิสูงขึ้นเล็กน้อยเป็น US$295 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$228 ล้าน ส่วนเกาหลีใต้ไหลออกบางๆ US$47 ล้าน ด้านอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ยังไหลเข้าอินโดนีเซียและไทยบางๆ แต่ไหลออกจากฟิลิปปินส์และสูงสุดที่เวียดนาม แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่าจะยังผสมผสานโดยติดตามมุมมองของประธาน FED หลายสาขาที่มีคิวให้ Comment คืนนี้ รวมถึงรายงานการประชุมในคืนวันพุธ
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) CPF เราคาดกำไร 2Q24 ฟื้นตัวแข็งแกร่ง จากธุรกิจหมูไทยที่ปัจจุบันกลับมามีกำไรจากราคาหมูที่ปรับขึ้นสูงกว่าต้นทุนการเลี้ยง และธุรกิจหมูในเวียดนามดีต่อเนื่องจากราคาหมูที่ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ไตรมาส ส่วนแบ่งขาดจากธูรกิจในจีนจะลดลงในช่วง 2H24 นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากราคาวัตถุดิบที่ปรับลงและส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL เพิ่มขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดกำไร 2Q24 จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีโอกาสที่กำไรจะอยู่ที่ระดับ 4-5 พันลบ.ต่อไตรมาส เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ขึ้น 22% เป็น 1.2 หมื่นลบ. ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 25 บาท จากเดิม 20 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) HANA โทนประชุมเป็นบวก คาดผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 1Q24 และจะทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q24 แต่จะเร่งขึ้นใน 2H24 ภาพรวมกลุ่ม PCB ยังมีคำสั่งซื้อดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะรง.ลำพูนได้ market share เพิ่มขึ้น กอปรกับรง.ที่จีน และ US ยังแข็งแกร่ง ส่วนประเด็นสหรัฐขึ้นภาษีจีน ผบห.ไม่ได้มองเป็นลบ อาจทำให้ order ย้ายมาที่รง.ในไทยและกัมพูชาแทน เราคาดกำไร 2Q24 จะฟื้นตัวทั้ง q-q และ y-y และน่าฟื้นเร่งขึ้นใน 2H24 เมื่อคำสั่งซื้อ IC และ SiC กลับมาฟื้นมากขึ้น คงประมาณการและราคาเป้าหมาย 50 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(+) MINT โทนประชุมเป็นบวกเล็กน้อย คาดผลการดำเนินงาน 2Q24 แข็งแกร่งต่อเนื่อง จาก RevPAR โรงแรมในยุโรปเติบโต 9% y-y ในเดือน เม.ย. 2024 และคาดโต 10% y-y ในเดือนพ.ค. ผู้บริหารคาดว่ากลุ่มธุรกิจ B2B จะเป็นตัวขับดันการเติบโตในปีนี้ รวมถึงเหตุการณ์สำคัญๆในยุโรป เช่น Summer Olympic, UEFA Euro 2024 และ Taylor Swift and Cold play concert ส่วนโรงแรมในไทยก็ยังแข็งแกร่ง RevPAR โต 7% y-y ในเดือน เม.ย. 2024 คงประมาณการและราคาเป้าหมาย 44 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) SIRI โทนประชุมเป็นกลาง ยอด presale 2QTD อยู่ที่ 6 พันลบ. หนุนจากโครงการบ้าน high end ที่ยังเติบโตดีของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และโครงการเปิดใหม่เน้นจุดที่เป็น popular tourist destination รวมถึงความต้องการของลูกค้าต่างชาติยังดีต่อเนื่อง โดยคิดเป็น สัดส่วน 20% ของยอด presale รวม เพิ่มขึ้นจาก 15% ใน 1Q24 และ 10% ใน 4Q23 นอกจากนี้ SIRI มีแผนเปิดโครงการใหม่ 2Q24 จำนวน 11 โครงการ มูลค่า 1.2 หมื่นลบ. อย่างไรก็ตาม คาดกำไรปกติ 2Q24 ชะลอตัว y-y จากฐานสูงปีก่อน แต่ทรงตัว q-q เรายังคงคาดกำไรปกติปี 2Q24 ที่ 4.7 พันลบ. ทรงตัว y-y และราคาเป้าหมาย 1.90 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 196.82 จุด หรือ -0.49% ปิดที่ 39,806.77 จุด โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นธนาคารเจพีมอร์แกน อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นก่อนที่ Nvidia จะเปิดเผยผลประกอบการ ขณะที่นักลงทุนยังคงหาสัญญาณบ่งชี้ช่วงเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดยหุ้นกลุ่มอากาศยานและการป้องกันประเทศนำตลาดปรับตัวขึ้น แต่การปรับตัวขึ้นของตลาดเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ตามทิศทางของตลาดสหรัฐในช่วงใกล้การประกาศงบกกลุ่มเทคฯ
(+) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 36.11 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ +0.07%
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 79.80 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเจ้าหน้าที่ของเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดควรรอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 79.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.10%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 21.10 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 2,461.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 2,458.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.14%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 838.54 –