บล.พาย:
Automotive: เม.ย. ลดลงแรงทุกกลุ่ม (NEUTRAL)
ส.อ.ท. รายงานตัวเลขยานยนต์ประจำเดือน เม.ย. เทียบกับปีก่อนยังคงลดลงแรงในทุกๆ กลุ่ม โดยเฉพาะตลาดส่งออกและยอดขายรถยนต์ในประเทศ ส่วนเทียบกับเดือน มี.ค. ลดลงเพราะมีวันหยุดค่อนข้างมาก ส่วนปริมาณการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 644 คันคิดเป็นสัดส่วน 1.7% ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง รวมแล้วในช่วง 4M24 มีการผลิตรถยนต์ 518,790 คัน (-17%YoY) เราคาดว่าแม้ในช่วงที่เหลือของปีจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่การจะทำให้การผลิตรถยนต์เป็นไปตามเป้าที่ระดับ 1.9 ล้านคัน ของทางสภาอุตสาหกรรม มีความเป็นไปได้น้อย ทั้งนี้ระยะยาวเรายังมอง ว่าผู้ผลิตชินส่วนยังคงได้รับผลดีจากการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตอยู่ เราจึงให้น้ำหนักการลงทุนที่ “เท่าตลาด” สำหรับหุ้นแนะนำระยะสันยังไม่มีแต่อย่างใด โดยการลงทุนแนะนำให้หาจังหวะสะสมเพื่อรับเงินปันผลเป็นหลักเพราะอัตราตอบแทนเงินปันผลอยู่ในระดับสูงทุกบริษัท
ยอดผลิตรถยนต์เดือน เม.ย. 24 อยู่ที่ 104,667 คัน (-11%YoY, -24%MoM)
- สภาอุตสาหกรรมรายงานตัวเลขกลุ่มยานยนต์เดือน เม.ย. 24 มีการผลิตรถยนต์ 104,667 คัน (-11%YoY, -24%MoM) การส่งออก 70,160 คัน (-12%YoY, -26%MoM) และยอดขายรถยนต์ในประเทศ 46,738 คัน (-21%YoY, -17%MoM)
- เทียบกับ เม.ย. 23 ยอดรถยนต์ในประเทศยังคงลดลงแรง (-21%YoY) โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่ยอดขายลดลง 36%YoY โดยเฉพาะ Isuzน ที่ยอดขายลดลงถึง 51%YoY ด้านการส่งออกลดลง 12%YoY และทำให้การผลิตรถยนต์ลดลง 11%YoY
- เทียบกับเดือน มี.ค. 24 ลดลงแรงในกลุ่มของยอดส่งออกและการผลิตรถยนต์ เนื่องจากเป็นเดือนที่มีวันหยุดค่อนข้างมากขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศติดลบน้อยสุด เพราะได้รับแรงหนุนจากงาน Motor Show
- ยอดจดทะเบียนรถ EV ในกลุ่มรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง เดือน เม.ย. อยู่ที่ระดับ 4,088 คัน (+7%YoY, -18%MoM) ขณะที่ยอดขายมีจำนวน 3,900 คัน (-7%YoY, -16%MoM) ส่วนการผลิตรถ EV ในประเทศ (นับเฉพาะผลิตในกลุ่ม BEV) มีจำนวน 644 คัน (-47%MoM) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1.7% ของการผลิตรถยนต์นั่งในประเทศ หรือ 0.6% ของการผลิตทั้งหมด
4 เดือนแรกการผลิตมีเพียง 518,790 คัน (-17%YoY)
- ยอดผลิตในช่วง 4M24 อยู่ที่ 518,790 คัน (-17%YoY) คิดเป็นสัดส่วน 27% ของเป้าที่สภาอุตสาหกรรมคาดไว้ (1.9 ล้านค้น)แม้ว่าโดยปกติแล้วเดือน เม.ย. จะเป็นเดือนที่ยอดผลิตต่ำสุด แต่จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังต้องรอดูผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐว่าจะเห็นผลมากน้อยเพียงใด ทำให้การผลิตทั้งปีน่าจะไปไม่ถึง ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมคาดว่าจะมีการปรับเป้าการผลิตในอีก 2 เดือนข้างหน้า ส่วนผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่เราประชุมเบื้องต้นบางรายคาดลดลงในระดับ 5 -10%YoY
- เรายังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มยานยนต์ “เท่าตลาด” ด้วยเหตุผลเดิมคือระยะยาวไทยยังคงเป็นฐานการผลิตรถยนต์ได้อยู่ ทั้งในกลุ่มรถ EV หรือรถพลังงานผสมอย่าง Hybrid ซึ่งล่าสุดกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นเริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้นสำหรับการเข้าสู่ตลาดรถ EV แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะหลังจาก TOYOTA และ ISUZU ต่างมีแผนผลิตกระบะไฟฟ้าภายใน 1-2 ปีข้างหน้านี้ สำหรับหุ้นแนะนำด้วยผลประกอบการในปี 24 ดูไม่สดใสนัก แต่ด้วยการจ่ายเงินปันผลที่ยังอยู่ในระดับสูงทุกตัวจึงหา จังหวะสะสมเพื่อรับเงินปันผลได้